นายธานินทร์ สุภาแสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงการร่วมงานฉลองครบรอบ 500 ปี ตองอู ว่า “ในระหว่างวันวันที่ 21-25 พฤศจิกายน 2553 ได้รับมอบหมายจากนายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนนำ คณะผู้แทนจากแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และลำพูน เข้าร่วมงานแสดงสินค้าของเมืองตองอู ซึ่งสินค้าจากประเทศไทยได้รับความนิยมจากชาวพม่าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ชาวเขาเผ่าลีซู ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และความงาม นอกจากนั้นเรายังได้รับเกียรติให้นำสินค้าเข้าร่วมในงานฉลองครบรอบ 500 ปี ตองอู ของชาวพม่าระดับสูง ซึ่งจัดในแกรนด์บอลลูม ของโรงแรมเกทุมวดี มีผู้นำทั้งภาครัฐเอกชนชาวพม่าเข้าร่วมในงานจำนวนมาก ภายในงานมีการจัดประกวดสาวงาม-ชายงามเมืองตองอู ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของงานการประกวดสาวงามเป็นการนำเครื่องแต่งกายโบราณมาสวมใส่ในการประกวด ส่วนการประกวดชายงามนั้นจะเป็นการประกวดชายที่มีกล้ามเนื้องาม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่คณะผู้เข้าชมทั้งชาวไทย และชาวพม่าด้วยกันเอง
นอกจากที่เรามาร่วมงานเฉลิมฉลองตองอูครบ 500 ปี เป็นงานต่อเนื่องจากเราที่ได้มาสานสัมพันธ์แล้ว เรายังคุยเรื่องการติดตามความสัมพันธ์ทางด้านการค้าตามนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับ westgate Policy จากชะอำ เรายกระดับเรื่องนี้ขึ้นมา รัฐบาลไทยได้นำเรื่องนี้มาเป็นห้าประตูสู่ตะวันตก คือ การใช้ประโยชน์จากเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ เศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ และแนวตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งจะมีการปรับปรุงเส้นทาง R3W และบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 1 ที่ อ.แม่สอด รวมทั้งจะเร่งกำหนดจุดก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2 การเร่งรัดการพิจารณายกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าให้เป็นด่านถาวร 2 แห่ง คือ ด่านห้วยต้นนุ่น-BP13 จ.แม่ฮ่องสอน และด่านสิงขร-มูด่อง จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเปิดด่านชายแดนที่ปิด ไปแล้ว คือ ด่านพญาตองซู ตรงข้ามด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี เพื่อขยายการค้าชายแดนระหว่างกัน การเปิดใช้เส้นทางการค้าใหม่ ได้แก่ เส้นทางเมียวดี-เมาะลำไย , เส้นทางกาญจนบุรี-ทวาย , เส้นทางแม่ฮ่องสอน- เนปิดอ และเส้นทางแม่ฮ่องสอน-ทันเว
สำหรับการหารือในเบื้องต้นกับ Major General Soe Naing Minister of Hotel&Tourism Goverment of the Union of Myanmar รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและโรงแรมเมียร์มาร์ ที่เมืองหลวงใหม่ กรุงเนปิดอว์ นั้นเป็นการคุยกันง่ายๆ ว่าทางพม่าอยากให้เราทำอะไร ทางเราต้องการทำอะไร เมื่อเช้าเขาอยากให้เราคุยเรื่องการท่องเที่ยวก่อน คือเราอยากจะให้สัมพันธ์ในครั้งนี้เป็นเรื่องของการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และกีฬาเป็นหลักก่อน เรื่องการค้าการลงทุน ต้องมองนโยบายขอรัฐบาลชุดนี้ของเขาก่อน เป็นการสื่อเบื้องต้นในเท่านี้ก่อน และเราคงจะต้องมาร่วมกับเขาอีกในสองสามเรื่อง คือ การประชุมเจทีซีที่เมียร์มาร์ (เนปิดอว์) เขากังวลในเรื่องกฎระเบียบในประเทศ ตอนนี้เราเป็นสนามบินอินเตอร์เนชั่นแนล อาจจะมีบริษัทตัวแทนของพม่าไปอยู่ที่แม่ฮ่องสอน ทางราชการให้ผ่านทางท่องเที่ยวและกีฬา ภาคเอกชนผ่านหอการค้าก่อน เรื่องการบินระหว่างประเทศถ้าเรามีลูกค้าอยู่ที่แม่ฮ่องสอน 10-20 คน แอร์บากันสามารถแวะรับคนไปได้เลย ออกไปนอกประเทศ ซึ่ง ก็แล้วแต่ว่าสายการบินในประเทศเขาจะบินยังไง ซึ่งขณะนี้เขากำลังเปิดเมืองท่องเที่ยวในหลายๆ เมือง
สำหรับการหารือระหว่างผู้แทนไทย และผู้แทนชาวพม่านั้น นายสุพจน์ กลิ่นปราณีต ประธานหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ทางหอการค้าเราได้กล่าวถึงนโยบาย การผลักดัน การยกระดับด่านถาวร ที่บ้านห้วยต้นนุ่น อำเภอ ขุนยวมว่า หอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีความตั้งใจ จริงที่จะร่วมสานสัมพันธ์กับทางนักธุรกิจชาวพม่า โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยว ในอนาคตหากว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 การท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงระหว่างประเทศในกลุ่มเอเชีย จะมีความสำคัญ และมีบทบาทในการสร้างรายได้เข้าสู่อนุภูมิภาคได้อย่างมหาศาล หากว่าทั้งสองประเทศ มีการเตรียมพร้อมที่ดีเชื่อว่า แม่ฮ่องสอน-พม่า จะมีจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวร่วมกันได้
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ที่เดินทางเข้า มาท่องเที่ยวในประเทศไทย จะต้องมาที่กรุงเทพ ภูเก็ต สุโขทัย เชียงใหม่ เชียงราย หากเรามีการ Connection ที่ดี เราสามารถให้ประเทศเมียร์มาร์เป็น Optional เสริม ได้ซึ่งก็ตรงตามความต้องการของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว
ที่สำคัญในกลุ่มภาคเหนือ 17 จังหวัดก็ให้ความสนใจที่จะมาท่องเที่ยวยังประเทศพม่าเช่นกัน โดยเฉพาะเส้นทางเดินรถ ที่หอการค้าฯ ได้วางเป้าหมายไว้จากด่านห้วยต้นนุ่น ออกมายังพาซอง ตองอู หรือเนปิดอว์ มีระยะทางไม่ไกลมากนัก ใช้เวลาบนเครื่องบิน 45 นาที ใช้เวลาในการขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง ก็สามารถมาท่องเที่ยวต่อยังหัวเมืองสำคัญใน พม่าได้ และแน่นอนที่สุดเป้าหมายสำคัญของเรา คือ การเชื่อมต่อออกไปยังอ่าวเบงกอล ชายหาด งาปาลี เมืองทันเวย์ ห่างจากแม่ฮ่องสอนเพียง แค่ 400 กิโลเมตร หากเทียบกับระยะทางจาก แม่ฮ่องสอนไปทะเลในประเทศไทยด้วยกันแล้ว มีระยะทางประมาณ 1,000 กว่ากิโลเมตร ฉะนั้นหากมีการยกระดับด่านห้วยต้น นุ่น สำเร็จกลุ่มจังหวัดในภาคเหนือตอนบน ก็จะสามารถมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ใกล้ ที่สุดอีกด้วย
การหารือกันในระหว่างที่เราไปร่วมงานแสดงสินค้ากับเขานั้น ทางพม่าเขามีความยินดีกับเราเป็นอย่างมากที่ ทั้งสองประเทศมีนโยบายในการดำเนินงานซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกัน ในเรื่องของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะ U WIN AUNG ซึ่งเป็นรองประธานหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมแห่งเขตบาโก และเป็น MD ของโรงแรม Royal Kaytumadi Hotel นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้บริหารของ KAM กรุ๊ป ซึ่งมีโรงแรมระดับห้าดาวในเครือมากกว่า 5 แห่งทั่วประเทศพม่า นอกจากนั้นยังประกอบธุรกิจเรื่องสายการบิน KAI AIRLINE ธุรกิจการค้าการส่งออก ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเขาให้ความสนใจในเรื่องของธุรกิจการบริการท่องเที่ยว ที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรอีกมาก โดย U WIN AUNG ได้เสนอให้มีการบันทึกความตกลงร่วมกันในการประชุมคราวหน้า
สำหรับการเจรจากับ Maung Maung Swe Chairman Union of Myanmar Travel Association(UMTA) นั้นท่านนายกสมาคมฯ เขาก็มีความเห็นและนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเช่นเดียวกับเรา ที่สำคัญกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเขาในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียตนาม จีน เป็นหลัก
ส่วนท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและโรงแรมของเมียร์มาร์ ได้ให้ข้อคิดมาว่า เรื่องการสานสัมพันธ์ไทยเมียร์ที่เรากำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ถือว่าเดินทางถูกทางแล้ว และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศเป็นผู้นำ โดยมีรัฐบาลให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
Maj-Gen Hla Min Chairman of Bago Division Peace and Development Council Commander of Southern Command ผู้นำทหารพม่าในเขตพะโคเองเขาก็ให้การสนับสนุนเราเป็นอย่างดี เขากล่าวในงานเลี้ยงว่า เรื่องการเชื่อมต่อระหว่างสองประเทศโดยผ่านด่านห้วยต้นนุ่นนั้น มีความเป็นไปได้สูง
นายประจวบ สุภิณี ทูตพาณิชย์ไทยประจำนครย่างกุ้ง กล่าวว่า งานฉลองครบรอบ 500 ปีตองอู เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ให้ปรากฏเพิ่มมากขึ้น ให้ทางพม่ารับรู้ว่าเราต้องการมีความสัมพันธ์กับเขาเพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมาเราควรจะมาเสริมสร้าง ความสัมพันธ์กันโดยใช้ด้านการค้า หรือด้านธุรกิจมาเสริมสร้างความสัมพันธ์น่าจะเป็นกลยุทธ์และ วิธีการที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นการแสดงออกที่ไม่มีกิจกรรมใดๆ แอบแฝง ซึ่งทางพม่าก็ยินดีที่จะร่วมมือ ในการร่วมกิจกรรมนี้ ไม่ว่าที่เนปิดอว์ ตองอู หรือว่าทุกๆ แห่งของประเทศพม่าก็มีความยินดีที่จะต้อนรับ ชาวไทย ก่อให้เกิดความร่วมมือในอนาคตตลอดไป
สำหรับเรื่องการท่องเที่ยวในประเทศพม่า เขารับรู้คอบเซ็ปต์ทุกหน่วยงานแล้วว่า พม่า จะเป็นประเทศที่มีการพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยวที่ก้าวกระโดดค่อนข้างเยอะ เนื่องจากว่าพม่าเป็นประเทศ ที่ยังไม่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาเท่าไหร่ แต่หลังจากที่มีการเลือกตั้ง หรือที่มีการแสดงออก ว่าพม่าต้องการที่จะเปิดประเทศรับผู้ประกอบการ หรือรับชาวต่างชาติได้แล้ว ทิศทางต่อไปก็คือเรื่อง ของการพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่ขยายตัวมากขึ้น แต่อัตราการขยายตัวของการรองรับนักท่องเที่ยว ก็ยังไม่เพียงพอ ถึงแม้ว่ามันจะพัฒนายังไงนักท่องเที่ยวที่เข้ามามันก็จะมากกว่าที่เขาพัฒนา เพราะฉะนั้นมันก็จะมีผลกระทบต่อดีมานมากกว่าซัพพลาย เช่นเรื่องโรงแรม ระบบโรงแรมยังไม่เพียงพอ รองรับกับนักท่องเที่ยว อย่างที่มีปรากฎการณ์เกิดขึ้นกับนักท่อเที่ยวที่ว่าแม้แต่ห้องเดียวก็ไม่สามารถที่จะ เข้าพักได้
คอนเซ็ปต์ของการลงทุน อยากให้นักธุรกิจไทยมีสเตปในการลงทุนก่อนในการลงทุน กับพม่า ก็เสนอ อย่างสเตปหนึ่งเนี่ยให้คิดว่าคิดยังไงกับตลาดพม่า อย่าคิดว่าตลาดพม่ามาถึงจะค้าขายได้ และการค้าขายกับพม่าอย่าคิดว่าพม่าคือประเทศ ให้คิดว่าพม่าคือหนึ่งจังหวัดของประเทศไทย ให้คิดในหลักการของการทำการค้าไม่ใช่หลักการของเรื่องอื่น เพราะหากคุณคิดว่าตลาดพม่าคือส่วนหนึ่ง ของประเทศไทย นั่นจะทำให้คุณมีความสามารถในการตัดสินใจในการทำการค้ากับตลาดมากขึ้น อย่าไปคิดว่าพม่าจะต้องค้าด้วยระบบเงินเหรียญ พม่าเขาเข้าใจเงินไทยแน่นอนว่าบาทคืออะไร พอผ่านสเตป ที่หนึ่งแล้วสเตปต่อไปคือ คุณนำสินค้ามาหาคู่ค้าได้อะไร คุณก็ต้องทำการค้าแบบซื้อมาขายไปก่อน สเตปที่สามก็คือว่ามีโอกาสไหมที่สินค้าของคุณจะมาอยู่ในตลาดแบบไหน แบบมาขายเรื่อยๆ หรือ แบบการหาร่วมลงทุนหรือการจอยเวนเจอร์ร่วมกัน แบบที่สี่คือการลงทุนด้วยตัวคุณเอง ซึ่งพม่าไม่เคยห้าม การลงทุน ชาวต่างชาติสามารถลงทุนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถามว่าในระบบที่เขามีระเบียบคุณสามารถ รับได้ไหม คุณสามารถแข่งขันกับเจ้าอื่นได้ไหม ถ้าคุณสามารถรับได้ คุณสามารถแข่งขันกับเจ้าอื่นได้ คุณสามารถเข้ามาได้ แต่ภาพที่เราเห็นผิวเผินปรากฏว่าพม่ากีดกันการลงทุนจากชาวต่างชาติ ในความเป็นจริงไม่ได้มีการกีดกัน.