มหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์นานาชาติ (TICEF) ปิดฉากยิ่งใหญ่ มั่นใจไทยก้าวไปสู่ประเทศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในอาเซียนแน่นอน

พุธ ๐๑ ธันวาคม ๒๐๑๐ ๑๖:๒๙
นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปปิด "มหกรรมงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์นานาชาติ (TICEF) " ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน ณ โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ ไฮแอท เซ็นทรัลเวิล์ด ที่ผ่านมา ได้เสร็จสิ้นลงอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากหลายประเทศและหลายสาขาวิชาชีพ กว่า 1,700 คน จาก 50 ประเทศว่า ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม เนื่องจากเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการอยู่รอดของประเทศขนาดเล็กในสังคม เพราะปัจจุบันโลกมีการต่อสู้กันอย่างแข่งขันและเข้มข้นตามแนวคิดของนายจอห์น ฮอร์กิ้นส์ ประธานกลุ่มสร้างสรรค์และนักเขียนเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากอังกฤษ เนื่องจากในอนาคตข้างหน้า การแข่งขันด้วยอัตราค่าจ้างแรงงานต่ำ ประเทศเล็กอย่างประเทศไทย จะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งอย่างประเทศเวียดนามและประเทศจีนได้อีกต่อไป และทางรอดของประเทศเล็กอย่างไทยก็คือ การผลิตสินค้าจากทรัพยากรที่มีในประเทศ เช่น สมุนไพร และยารักษาโรคเป็นต้น

“การสร้างสรรค์สามารถทำให้เอสเอ็มอีและบริษัทขนาดใหญ่แข่งขันกันอย่างเท่าเทียมได้ ไทยมีเอสเอ็มอี ถึงร้อยละ 99 หากสร้างโครงสร้างพื้นฐานและปัจจัยเกื้อหนุนต่าง ๆ จะทำให้ช่วยประสบผลสำเร็จได้ มีการย้ายสู่อุตสาหกรรมที่เติบโตได้ โดยผู้ประกอบการต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น บุคลากรเป็นสินทรัพยที่สร้างสรรค์ได้ ดังนั้นต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุน และเกิดการจ้างงานที่ดี รายได้ที่ดี อยู่ร่วมกันได้มนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยทำระดับปัจกบุคลและท้องถิ่น หากทำสำเร็จ สังคมก็สำเร็จ ต้องมีการจัดการสมดุลระหว่างความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ และเทคโนโลยี ซึ่งที่สุดนำไปสู่การมีชีวิตที่ดีขึ้นได้” นายไตรรงค์กล่าว

นายไตรรงค์ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า หลังการจัดงาน"มหกรรมงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์นานาชาติ" ในครั้งนี้ ยังเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในภูมิภาคนี้ และเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ของไทย จะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้าหรือปี พ.ศ.2555 อย่างแน่นอน

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ กล่าวว่า การจัดงานแม้เป็นครั้งแรกของไทย แต่ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยประเทศไทยได้รับการยอมรับจาก WIPO หรือ องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก องค์การสหประชาชาติ(UN) และ UNESCO รวมถึงองค์การการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ให้การยอมรับว่า ประเทศไทยสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำประเทศด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในภูมิภาคนี้ และหวังว่า Thailand Model เป็นแบบอย่างให้กับประเทศกำลังพัฒนาต่อไป ขณะเดียวกันไทยก็สามารถสร้างองค์กรคือ สำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติในการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์

นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก และองค์การการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนาในการสร้างผู้นำภาคราชการ และผู้ประกอบการด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และด้านทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะให้มีการจัดตั้ง WIPO ACADEME เพื่อเป็นศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ เพราะการที่ประเทศไทยตั้งเป้าหมายไว้ 2 ประการคือ รัฐบาลสามารถผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นประเทศผู้นำด้านเศรฐษกิจสร้างในภูมิภาคนี้ และการเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้อยู่ในระดับร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ภายในปี 2555 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมูลค่าจะเพิ่มจากปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 900,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1 ล้านล้านบาทได้อย่างแน่นอน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ