ริเวอร์แควประกาศยอดขายครึ่งปีแรกกว่า 821 ล้านบาท ชี้ 2 ปัจจัยต้นทุน-ภัยธรรมชาติ....ส่งยอดโตรวม 15%

พุธ ๓๑ สิงหาคม ๒๐๐๕ ๑๓:๔๒
กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแทนส์
เผยปัญหาอียูส่งให้เอกชนไทยรวมตัวปกป้องสิทธิ์
นายโรจน์ บุรุษรัตนพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริเวอร์แคว อินเตอร์เนชั่นแนล อุตสาหกรรมอาหาร จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกข้าวโพดหวานทั้งในรูปแบบกระป๋องและผักสด ร่วมทั้งผลิตและจัดจำหน่ายผักเกษตรอินทรีย์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2548 ว่า บริษัทมียอดขายรวมในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ประมาณ 821 ล้านบาท
ในขณะที่ยอดขายรวมทั้งปีของปี2547 มี 1,340 ล้านบาท ถือว่าเป็นผลประกอบการที่ดีตามความคาดหมายของบริษัท สำหรับธุรกิจข้าวโพดหวานนั้น การตลาดมีการขยายตัวประมาณร้อยละ 50 โดยเฉพาะตลาดยุโรป ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนด้านการตลาดที่ได้ดำเนินการไปในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2547 โดยธุรกิจจะยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หากไม่มีอุปสรรคที่สำคัญเข้ามากระทบ
นายโรจน์กล่าวถึงอุปสรรคสำคัญของธุรกิจ ว่า มีอุปสรรคสำคัญ 2 ด้าน ด้านแรกคือต้นทุนผลิตปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะภาชนะบรรจุ(กระป๋องเปล่า)ที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 25 เนื่องจากราคาเหล็กในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ปัจจุบันราคาน้ำมันส่งผลกระทบกับปัจจัยผลิตหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนวัตถุดิบ ค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงงาน และค่าขนส่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ทะยอยปรับราคาขายกับลูกค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย อุปสรรคที่สำคัญอีกประการหนึ่งในปีนี้ คือ เรื่องภัยธรรมชาติ ซึ่งตอนต้นปีมีภาวะแล้งจัด ทำให้ผลผลิตต่ำกว่าเป้าหมาย และมีปัญหาด้านคุณภาพ ขณะเดียวกัน ณ ปัจจุบันมีฝนตกหนัก น้ำท่วมขังในบางพื้นที่ ทำให้ผลผลิตเสียหายบางส่วน และการเพาะปลูกในฤดูปัจจุบันจะลดน้อยลงกว่าแผนงาน เนื่องจากดินแฉะ เพาะปลูกไม่ได้เต็มที่ คาดว่าผลผลิตข้าวโพดหวานและยอดส่งออกในปีนี้ของประเทศไทย น่าจะเติบโตไม่เกินร้อยละ 15 ของปีที่ผ่านมา
สำหรับธุรกิจผักสดหรือผักเกษตรอินทรีย์นายโรจน์กล่าวว่า ตลาดหลักยังเป็นประเทศอังกฤษ ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย โดยตลาดขยายตัวประมาณร้อยละ 20 สินค้าหลักยังเป็น ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง กระเจี๊ยบ ชุดพร้อมทาน ขณะเดียวกัน ได้เริ่มเปิดตลาดในประเทศกับร้านสะดวกซื้อ 7-11 โดยเริ่มด้วยชุดสลัดพร้อมทาน สำหรับอุปสรรคสำคัญของธุรกิจผักสดคือ ค่าน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งนอกจากต้นทุนของเกษตรกรและการขนส่งเข้าโรงงานจะมีต้นทุนสูงขึ้นแล้ว ค่าขนส่งทางอากาศยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบคู่แข่งขันประเทศในทวีปแอฟริกาใต้ เช่น ซิมบับเว แทนซาเนีย ที่มีภาระค่าขนส่งทางอากาศไปยังตลาดยุโรปประมาณ 60-70 บาท ต่อกิโลกรัม ขณะที่จากไทยที่มีระยะทางไม่ต่างกันมากนัก แต่มีค่าขนส่งสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 90 บาท
“ ริเวอร์แควเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมข้าวโพดหวาน เมื่อประมาณ 13-14 ปีที่ผ่านมา จากการที่ประเทศไทยไม่ได้มีบทบาทในตลาดโลกเลย จนปัจจุบันเป็นผู้ส่งออกอันดับ 4 ของโลก นำเงินตราเข้าประเทศมากกว่า 2,700 ล้านบาท ในปี 2547 ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ริเวอร์แควยังเป็นผู้เริ่มโครงการผักเกษตรอินทรีย์มาตรฐานยุโรปเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทยในช่วงนั้นยังไม่ได้ตื่นตัวเรื่องผักเกษตรอินทรีย์อย่างชัดเจน ทางริเวอร์แควฯ ได้นำหน่วยงานรับรองมาตรฐานจากประเทศอังกฤษเข้ามาวางพื้นฐานเรื่องการผลิตผักอินทรีย์เพื่อการส่งออก และธุรกิจขยายตัวมาโดยตลอด และปัจจุบันได้เริ่มโครงการหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์กับจังหวัดสุรินทร์ เป็นการขยายพื้นที่เพาะปลูกให้กว้างขวางขึ้น เป็นผลให้บริษัทได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award ประจำปี 2541 ในฐานะผู้ส่งออกดีเด่น นอกจากนี้ริเวอร์แควคือความเป็นบริษัทของคนไทยที่สามารถนำเงินตราจากการส่งออกสินค้าข้าวโพดหวานและผักสด มากกว่าปีละ 1,200 ล้านบาท กลับมาหมุนเวียนสร้างอาชีพที่มั่งคงให้เกษตรกรเกือบ 10,000 ครอบครัวที่เป็นสมาชิกเพาะปลูกวัตถุดิบ โดยจ่ายเงินค่าข้าวโพดหวาน และผักสด มากกว่า 300 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ยังมีการจ้างแรงงานในท้องถิ่นทำงานในโรงงานประมาณ 1,500 คน” นายโรจน์กล่าว
สำหรับปัญหาการส่งข้าวโพดหวานไปยังกลุ่มตลาดอียูนายโรจน์กล่าวว่า บทความในนิตยสาร FOODNEWS ซึ่งตีพิมพ์และเผยแพร่ในยุโรปเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา มีใจความตอนหนึ่งว่า......กลุ่มผู้ผลิตข้าวโพดหวานในยุโรป คือ ฝรั่งเศส และ ฮังการี ได้เตรียมยื่นเรื่องให้คณะกรรมการสหภาพยุโรปหรือ EU พิจารณาขึ้นภาษีข้าวโพดหวานจากประเทศไทยอีกร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 20.1 โดยประธานสมาคมผู้ผลิตข้าวโพดหวานของยุโรป ได้ร้องเรียนเรื่องผู้ส่งออกข้าวโพดหวานจากประเทศไทย ส่งสินค้าข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องไปขายตัดราคาในยุโรป ทำให้ผู้ผลิตในฝรั่งเศส และ ฮังการี ได้รับความเดือดร้อน สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไป จนทำให้หลายโรงงานมีปัญหาทางด้านการเงิน ซึ่งทางสมาคมผู้ผลิตในยุโรปไม่มีทางเลือกอื่นที่จะปกป้องอุตสาหกรรม นอกจากการเสนอใช้มาตรการ Anti Dumping ด้วยการขอให้ขึ้นภาษีในครั้งนี้จากบทความนี้ทางกลุ่มทางกลุ่มผู้ผลิตข้าวโพดหวานของประเทศไทย ได้ร่วมกันประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวหลายครั้ง โดยได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามประเมินสถานการณ์ และได้ระสานงานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อเตรียมเจรจากับลกุ่มผู้ผลิตในอียูและเตรียมแนวทางชี้แจงกับทางอียูต่อไปหากมีการเสนอเรื่อง Anti Dumping นี้จริง เนื่องจากในปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้ส่งสินค้าข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องขายไปในตลาดโลก 95,806 ตัน มูลค่ารวม 2,709 ล้านบาท โดยตลาดยุโรป เป็นตลาดใหญ่สุด ปริมาณ 45,222 ตัน มูลค่ารวม 1,436 ล้านบาท หรือ ประมาณร้อยละ 47 ของมูลค่ารวม
นายโรจน์กล่าวว่า หากทางคณะกรรมการสหภาพ EU มีมติเห็นชอบตามที่สมาคมผู้ผลิตข้าวโพดหวานของยุโรปเสนอไป จะก่อให้เกิดความเสียหายกับอุตสาหกรรมของประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลาด EU เป็นตลาดที่สำคัญที่สุดของสินค้าข้าวโพดหวานจากประเทศไทย และมีแนวโน้มความต้องการมากขึ้นทุกปี ทางผู้ผลิตในยุโรปเองมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าประเทศไทย จึงทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง แต่หากพิจารณาตามความเป็นธรรมแล้ว การแข่งขันในโลกเสรีน่าจะเปิดกว้างให้ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ข้าวโพดหวานของยุโรปโดยรวมยังมีคุณภาพสูงกว่าของประเทศไทย เนื่องจากมีประสบการณ์ของอุตสาหกรรมมานาน ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์ หรือ ขบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีสูง การวางตำแหน่งของสินค้าอยู่ในกลุ่มบน มีการทำตลาดด้วย แบรนด์สินค้า ราคาก็ควรสูงกว่า สินค้าจากประเทศไทยที่ยังต้องพัฒนาคุณภาพ และผู้นำเข้าส่วนใหญ่นำไปขายเป็น House Brand หรือ ตาม Discount Store อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตในประเทศไทยควรต้องเริ่มพัฒนาคุณภาพสินค้ากันอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มศักยภาพการขายไปยังลูกค้ากลุ่มบนที่ยอมรับราคาสินค้าที่เหมาะสม น่าจะได้ประโยชน์และผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการขายราคาต่ำ แล้วมีการตัดราคากันเอง จนก่อให้เกิดข้อโต้แย้งจากทาง EU ในปัจจุบัน
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแทนส์ จำกัด
จินตนา ตรีพิชิต โทร.02-9861135 , 029861854
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version