ด้าน นายพนุกร จันทรประภาพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแมนูไลฟ์ มองว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและให้ผลตอบแทนเหนือกว่าตลาดในภูมิภาค โดยนับตั้งแต่ต้นปีดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวขึ้นกว่าร้อยละ 35 และเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับที่สองของเอเชีย
ในส่วนของเศรษฐกิจไทย แมนูไลฟ์คาดการณ์ตัวเลข GDP น่าจะมีอัตราการเติบโตได้ประมาณร้อยละ 4 ในปีหน้า หลังจากที่ GDP ปีนี้ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดมาก โดยมีโอกาสเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7 ในปีนี้
ในระยะสั้น คาดว่าตลาดหุ้นอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเรื่องเศรษฐกิจและปัญหาเงินเฟ้อของจีน ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี ตลอดจนปัญหาทางการเมืองในประเทศ อย่างไรก็ตาม สำหรับระยะยาว ทางแมนูไลฟ์ยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดในปี 2554 โดยคาดการณ์เป้าดัชนีไว้ที่ 1,200 จุด ซึ่งคาดว่าจะให้ผลตอบแทนการลงทุนประมาณร้อยละ 20 จากดัชนี ณ ปัจจุบัน โดยมีสาเหตุหลักจากการคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่น่าจะเติบโตต่อเนื่องในอีก 3 ปีข้างหน้าประมาณร้อยละ 15 ต่อปี จากการที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้บริษัทจดทะเบียนไทยมีการลงทุน และขยายขนาดธุรกิจมากขึ้น นอกจากนั้น อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และค่าเงินบาทที่ปรับแข็งค่าขึ้น ยังช่วยเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทไทย ในการสั่งซื้อเครื่องจักร หรือมีการลงทุนเพิ่มเติมในต่างประเทศ ดังนั้น สำหรับนักลงทุนระยะยาว ทางแมนูไลฟ์ยังคงแนะนำให้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง
ผู้สนใจลงทุนสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-354-1001, 02-246-7650 กด 2 เพื่อติดต่อบริษัทจัดการ หรือที่ตัวแทนสนับสนุนการขายที่บริษัทแต่งตั้ง อาทิ ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน)