นายสุรเดช เกียรติธนากร ผู้บริหารกลุ่มงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ ผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย การเพิ่มทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ หรือ MJLF กล่าวว่า การเพิ่มทุนของ กองทุนรวมฯ MJLF สำหรับการลงทุนเพิ่มเติมในศูนย์การค้า ซูซูกิ อเวนิว รัชโยธินในครั้งนี้ กองทุนรวมฯ MJLF จะดำเนินการออกและเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมจำนวน 100 ล้านหน่วย โดยมีราคาขายหน่วยละ 10 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2553 ตามที่ได้มีการแจ้งการปิดสมุดทะเบียนไปก่อนหน้านี้ สามารถใช้สิทธิในการจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนนี้ โดยมีอัตราส่วนการใช้สิทธิ 1 หน่วยเดิม ต่อ 0.4347 หน่วยใหม่
ทั้งนี้มีกำหนดการจองซื้อสำหรับผู้ถือหน่วยเดิม ในวันที่ 16 - 20 ธันวาคม 2553 โดยในกรณีที่หน่วยลงทุนเหลือ จะจัดสรรหน่วยลงทุนให้สำหรับบุคคลในวงจำกัดและผู้ลงทุนทั่วไป โดยจะเปิดจองซื้อตั้งแต่วันที่ 21 — 27 ธันวาคม 2553
นายสมนึก พจน์เกษมสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงสร้างของการนำศูนย์การค้า ซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน ขายให้กองทุนรวม ฯ MJLF เป็นลักษณะสิทธิการเช่า (leasehold) มีระยะเวลาเช่า 30 ปี โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 960 ล้านบาท ซึ่งศูนย์การค้า ซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน บริหารงานโดย บริษัท รัชโยธิน อเวนิว ซึ่งถือหุ้นโดย บมจ. สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ และ บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในสัดส่วน 50:50
นายฉัฐภูมิ ขันติวิริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า การนำศูนย์การค้า ซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน เข้ากองทุนรวมฯ MJLF ครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มความหลากหลายให้กับกองทุน เนื่องจากศูนย์การค้า ซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน มีประเภทธุรกิจที่หลากหลาย อาทิ ซุปเปอร์มาร์เก็ต , ร้านอาหารและเครื่องดื่ม , เสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ รวมทั้งในศูนย์การค้ายังมีพื้นที่สำหรับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและกิจกรรมอื่นๆ ตามเทศกาล ซึ่งจะมีผลทำให้แนวโน้มผลตอบแทนในอนาคตของกองทุนรวมฯ MJLF ดีขึ้น ทั้งนี้หลังจากที่ศูนย์การค้า ซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน เข้ากองทุนรวมฯ MJLF แล้ว ทาง บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จะทำหน้าที่เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้การบริหารโครงการทั้งหมดของกองทุนรวมฯมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น