นายอำพล โพธิ์โลหะกุล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการของสายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการของธนาคารในปี 2553 มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าระบบธนาคารพาณิชย์ไทย โดย ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2553 มียอดรวมเงินฝากและกองทุนรวม 1.48 ล้านล้านบาท ทำให้ธนาคารขึ้นครองอันดับ 1 อันเป็นผลมาจากการกลยุทธ์ของธนาคารที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญใน 2 ด้าน คือ ด้านการให้บริการที่ดีที่สาขา ซึ่งจากผลสำรวจของบริษัทนีลเส็น ในปี 2552 ธนาคารกสิกรไทยได้คะแนนความพึงพอใจในการใช้บริการสูงเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย จากทุกประเภทธุรกิจ (Best in Class of Thailand : All industries) โดยได้คะแนนสูงถึง 89 คะแนน รวมถึงด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่โดนใจลูกค้าอีกด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2553 ธนาคารมียอดสินเชื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิต และสินเชื่อผู้บริโภค รวมกว่า 198,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2552 ประมาณ 21% และมีเอ็นพีแอลที่ต่ำกว่าระบบที่ 1.7% โดยธนาคารมีรายได้จากค่าธรรมเนียมประมาณ 15,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 30% โดยรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีการเติบโตหลัก ๆ มาจากการเติบโตในส่วนของ ธุรกิจเงินโอน บัตรเครดิต กองทุนรวม และแบงก์แอสชัวรันส์ นอกจากนั้น ในปี 2553 ธนาคารกสิกรไทย ได้ขึ้นเป็นผู้นำในบริการด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด จากบริการ K-Mobile Banking และ K-Cyber Banking รวมทั้ง ในสื่อ Social Media ก็เป็นธนาคารที่มีสมาชิก Facebook และ Twitter เป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย
โดยในปี 2554 ธนาคารเน้นกลยุทธ์หลักสู่ความสำเร็จ คือ “ฝาก KBank ช่วยดูแลตลอดทุกช่วงชีวิต เพื่ออนาคตที่ดีกว่า” โดยแนวคิดดังกล่าวมีที่มาจากผลการศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าที่ลูกค้าในแต่ช่วงอายุมีความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่างกัน โดยมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงชีวิตด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมทางการเงินอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังส่งมอบ “บริการที่ดีที่สาขา” ด้วยมาตรฐานการให้บริการที่ดีสม่ำเสมอ โดยธนาคารให้ความสำคัญด้านการพัฒนาระบบ งานสนับสนุนการให้บริการลูกค้า รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยใช้งบประมาณในปี 2552-2554 รวมกว่า 2,400 ล้านบาท
ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว ธนาคารตั้งเป้าหมายในปี 2554 จะครองตำแหน่งคะแนนความพึงพอใจในการใช้บริการสูงเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย (Best in Class of Thailand : All industries) ด้วยคะแนน 91 ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารจะมียอดเงินฝากและกองทุนรวมเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราเติบโต 13-15% ต่อปี ยอดสินเชื่อลูกค้าบุคคลเพิ่มขึ้น 12-15% โดยสินเชื่อผู้บริโภคเพิ่มขึ้นสูงสุด 40% รองลงมาคือ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 12% และสินเชื่อบัตรเครดิต 9% และควบคุมสินเชื่อไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ไม่เกิน 1.8% สำหรับรายได้จากค่าธรรมเนียมในปี 2554 ธนาคารตั้งเป้าไว้ที่ 19,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30-35% จากปี 2553 โดยจะมีรายได้ค่าธรรมเนียมจาก การโอนเงิน บัตรเดบิต ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจกองทุนรวม และธุรกิจแบงก์แอสชัวรันซ์ เป็นหลัก
ส่วนประชาสัมพันธ์ ธนาคารกสิกรไทย
1 ซอยกสิกรไทย ราษฎร์บูรณะ
กทม.10140
โทร.0 2470 2653-8