สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน หรือ IESG ได้จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2553 ณ ห้องชมวัง อาคารราชนาวิกสภา หอประชุมกองทัพเรือ ถ.อรุณอัมรินทร์ กรุงเทพฯ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ความเข้าใจอันดี ความร่วมมือร่วมใจ และประสานงานกันในหมู่สมาชิกสมาคมฯ ส่วนราชการ องค์กรเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ และแสดงความขอบคุณในการเผยแพร่ภารกิจหลักของสมาคมฯ ในด้านการบริหารจัดการความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับกันอย่างกว้างขวาง โดยใช้ชื่อ theme งานว่า “Synergy for Excellent Sustainable Development - มุ่งมั่นเสริมสร้างขีดความสามารถและศักยภาพของสมาคม เพื่อความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง”
ดร.ธีระพล โศภนคณาภรณ์ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) กล่าวว่าสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) เป็นสมาคมองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ที่จัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย โดยเริ่มจาก ปี 2511 โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ และโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ที่ศรีราชามีการตกลงร่วมกันในการให้ความช่วยเหลือและร่วมมือกันในการขจัดคราบน้ำมันที่อาจรั่วไหลลงสู่ทะเลจากการปฏิบัติการของทั้งสองโรงกลั่น และในปีพ.ศ. 2513 ผู้บริหารของ บริษัท คาลเท็กซ์ เอสโซ่ เชลล์ ซัมมิท และไทยอยล์ จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อประสานงานร่วมกันในการป้องกันและแก้ไขการรั่วไหลของน้ำมันลงสู่ทะเล อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2513 โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “กลุ่มอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของวงการอุตสาหกรรมน้ำมัน” (Oil Industry Environmental Safety Group) และใช้ชื่อย่อว่า IESG
กลุ่ม IESG ได้จัดตั้งคลังเก็บอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมันส่วนกลางซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท โดยคลังเก็บอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมันของสมาคมฯ ตั้งอยู่ที่ จ.ชลบุรี และ จ.สงขลา กลุ่ม IESG ได้จัดทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันระหว่างสมาชิกและร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2545 กลุ่ม IESG ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลและเปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน หรือ Oil Industry Environmental Safety Group Association โดยยังใช้ชื่อย่อเดิมคือ IESG” และได้ขยายความร่วมมือครอบคลุมไปถึงการป้องกันอุบัติภัยและการขจัดน้ำมันรั่วไหลทางบกด้วย
ปัจจุบันสมาคมฯ มีสมาชิกทั้งสิ้น 17 บริษัท ได้แก่
- บริษัท บีพี คาสตรอล (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน)
- บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด
- บริษัท เชฟรอน (ไทย)จำกัด
- บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)
- บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน)
- บริษัท นิวคอสตอล (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท เพิร์ล ออย (ประเทศไทย)จำกัด
- บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด(มหาชน)
- บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)
- บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด(มหาชน)
- บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด
- บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด
- บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่งจำกัด
- บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน)
และมีสมาชิกกิตติมศักดิ์เป็นผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- อธิบดีกรมเจ้าท่า
- อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน
- อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ในทุกๆ ปี สมาคมฯ ได้จัดทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนามาตรฐานการดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมน้ำมันของประเทศไทย เช่น การฝึกอบรมและฝึกซ้อมการขจัดคราบน้ำมัน การฝึกอบรมและฝึกซ้อมแผนการระงับอุบัติภัยจากสารเคมีและน้ำมันทางบก การมอบรางวัลดีเด่นด้านความปลอดภัยให้กับพนักงานขับรถขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม บริษัทผู้ประกอบการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและ เรือบรรทุกน้ำมันปิโตรเลียม การประชุมสัมมนาระหว่างผู้แทนสมาคมฯ และผู้แทนเรือเกี่ยวกับมาตรฐานการปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานให้พัฒนาไปสู่ระดับสากล เป็นต้น
ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่สมาคมฯ ได้สร้างความร่วมมือระหว่างสมาชิกสมาคมฯ เท่านั้น สมาคมฯ ยังได้สร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของสมาคมฯ อีกด้วย อาทิเช่น กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น
คุณสุกฤตย์ สุรบถโสภณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวเสริมว่า การก่อตั้งและการดำเนินงานของสมาคม IESG นั้น เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการสร้างความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขการรั่วไหลของน้ำมันทั้งในน้ำ และบนบกเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการปกป้องสภาวะแวดล้อม ไม่เพียงแต่เป็นหน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น แต่เราทุกคนซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียจะต้องช่วยเหลือกัน ส่งเสริมการดูแลและป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเราจะได้มีสภาพแวดล้อมที่ดี
นอกจากนี้สมาคม IESG ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ อันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น
- การสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้ในการป้องกันและขจัดคราบน้ำมันระหว่างประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ ประเทศกัมพูชา ลาว เวียดนาม และประเทศไทย นอกจากนี้ ยังสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เป็นต้น
- การแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการปฏิบัติงานขจัดคราบน้ำมันทั้งทางบกและในน้ำ
- การรณรงค์ในการสร้างจิตสำนึกและความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน เพื่อมิให้มีผลต่อสภาพแวดล้อม