สธ.ทุ่มงบ 4พันล้าน ตั้ง “สถาบันวัคซีนแห่งชาติ” เฟสแรกจับมือ มหิดลพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออก

จันทร์ ๒๐ ธันวาคม ๒๐๑๐ ๑๖:๐๙
สธ.ทุ่มงบ 4 พันล้าน ตั้ง “สถาบันวัคซีนแห่งชาติ” เฟสแรกจับมือมหิดล พัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกเดงกี่ ควบคุมต้นทางการระบาดของโรค ตั้งเป้าภายในไม่เกิน 10 ปี ไทยต้องผลิตวัคซีนได้เองไม่น้อยกว่า 7 ชนิด มีความมั่นคงทางวัคซีนที่เพียงพอต่อการป้องกันควบคุมโรค สามารถวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนในเชิงอุตสาหกรรมได้ตามมาตรฐานสากล

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในงานพิธีเปิดป้ายสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ว่า สถาบันวัคซีนแห่งชาติถือเป็นหน่วยงานกลางด้านวัคซีนในสังกัดของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ในการผลักดัน ขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ การขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาวัคซีนพื้นฐานเพื่อควบคุมป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ จึงถือเป็นก้าวแรกในการดำเนินงานของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เนื่องจากในอดีตประเทศไทยเคยมีการผลิตวัคซีนได้ถึง 8 ชนิดแต่ปัจจุบัน การพัฒนาวัคซีนขาดความต่อเนื่องทำให้จำนวนวัคซีนที่ผลิตได้ในประเทศเหลือเพียง 2 ชนิดเท่านั้น คือ วัคซีนไข้สมองอักเสบและวัณโรคในเด็ก ทำให้ต้องนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศถึงร้อยละ 80 จึงถึงเวลาที่จะมีหน่วยงานกลางด้านวัคซีนเพื่อพัฒนาการผลิตวัคซีนขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยภาครัฐให้การสนับสนุนงบประมาณจำนวน 4,000 ล้านบาท มีการตั้งเป้าระยะยาวใน 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะสามารถผลิตวัคซีนป้องกันโรคพื้นฐานได้เองไม่น้อยกว่า 7 ชนิด โดยแบ่งระยะของการพัฒนาออกเป็นหลายระยะได้แก่ การพัฒนาวัคซีนโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก จะใช้เวลาภายใน 2 ปี และ วัคซีนวัณโรค คาดว่าจะใช้เวลา 5 ปี ส่วนวัคซีนไข้สมองอักเสบและเออีคาดว่าจะใช้เวลา 3-5 ปี

สำหรับการพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกเดงกี่นั้น ประเทศไทยถือว่าเป็นความหวังสำคัญในการควบคุมการระบาดของโรคไข้เลือดออกเดงกี่ที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในระดับประเทศและนานาชาติที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคมโดยรวมเป็นอันมาก การพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพใช้ในการป้องกันโรคจึงถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นทาง แต่การดำเนินงานดังกล่าวเป็นโครงการระยะยาว ซึ่งต้องใช้งบประมาณมากและต้องได้รับความร่วมมือจากภาคีหลายภาคส่วน เนื่องจากการพัฒนาวัคซีนต้องมีกระบวนการหลายขั้นตอน ต้องใช้ทั้ง เทคโนโลยี องค์ความรู้ ปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น มีความซับซ้อนทั้งเชิงวิชาการและการบริหารจัดการ ซึ่งผลที่ได้จากการพัฒนาวัคซีนเดงกี่จะเกิดประโยชน์มหาศาลแก่เด็กและประชาชน ที่มีวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก สามารถลดการสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และความวิตกกังวลของพ่อแม่และครอบครัวของผู้เจ็บป่วย กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ทำความตกลงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลจัดทำ “โครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค-มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อพัฒนาวัคซีนเดงกี่มหาวิทยาลัยมหิดลชุดที่ 2 พ.ศ.2553-2557” ขึ้นโดยกระทรวงสาธารณสุขจะสนับสนุนด้านนโยบาย งบประมาณ และการบริหารจัดการ ส่วนมหาวิทยาลัยมหิดลจะสนับสนุนด้านการพัฒนาวัคซีนในระดับพรีคลินิก โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนาวัคซีนเดงกี่ที่มีประสิทธิผล มีความปลอดภัย ตามข้อกำหนดของหน่วยควบคุมกำกับของประเทศ เพื่อใช้ในการป้องกันควบคุมโรคแก่ประชาชนในวงกว้าง

นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเสริมว่า ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานของสถาบันวัคซีนแห่งชาติในหลายๆด้าน ได้แก่ ประชาชนจะได้รับวัคซีนเพื่อการควบคุมป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุข อย่างครอบคลุมและทั่วถึง ทั้งในสถานการณ์ปกติหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน ลดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากการรระบาดของโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน หน่วยงานเครือข่ายด้านวัคซีนได้รับการสนับสนุนทางวิชาการและการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ให้สามารถวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนในระดับอุตสาหกรรมได้ตามมาตรฐานสากล ส่งผลให้ประเทศเกิดความมั่นคงในการมีวัคซีนที่จำเป็นสำหรับการ

ควบคุมโรคได้อย่างเพียงพอ สามารถผลิตและพัฒนาวัคซีนได้เองในประเทศอย่างมีคุณภาพและสามารถนำวัคซีนไปใช้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากค่ารักษาพยาบาลและลดรายจ่ายจากการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ

ในอนาคตจะมีการผลักดันให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นองค์การมหาชนเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงานซึ่งจะสามารถส่งเสริมและผลักดันความร่วมมือในการดำเนินงานด้านวัคซีนระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เกี่ยวกับด้านวัคซีนอย่างครบวงจร ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในระยะยาวนาคตจะมีการการป้องกันควบคุมโรคแก่ประชาชนในวงกว้างกเดงถลดการสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และความวิตกกังวลของพ่อแม่และครอบและนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการเป็นประเทศผู้นำในภูมิภาคด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ

กลุ่มเผยแพร่ สำนักเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค

โทรศัพท์ :0-2590-3862 โทรสาร :0-2590-3386

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version