นางสาวเสาวณีย์ สิราริยกุล ผู้จัดการอาวุโสธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดปีที่ผ่านมาซัมซุงได้ให้ความสำคัญกับการทำตลาดผลิตภัณฑ์เตาอบไมโครเวฟอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดตัวเตาอบไมโครเวฟรุ่นใหม่รวม 13 รุ่น ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เช่นการสาธิตการทำอาหาร และ โปรโมชันพิเศษ เป็นต้น เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หลากหลาย โดยรุ่นไฮไลท์ที่สามารถผลักดันยอดขายเตาอบไมโครเวฟซัมซุงคือรุ่น MW71C-E ที่โดดเด่นด้วยด้วยเทคโนโลยี Triple Distribution System (T.D.S.) ระบบกระจายคลื่นไมโครเวฟแบบสามจุดที่ทำให้อาหารได้รับความร้อนสม่ำเสมอทั่วกัน นอกจากนี้ซัมซุงยังไม่หยุดยั้งในการค้นคว้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเอาใจผู้บริโภคกับการออกแบบ สารเคลือบผิวภายใน เซรามิก อินาเมล (Ceramic Enamel Bacteria Protection) ที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรียไม่ให้ปนเปื้อนในอาหารและทำความสะอาดง่าย ทำให้ผู้บริโภคได้เมนูอร่อย สุขภาพดีสำหรับทุกคนในครอบครัว”
สำหรับแผนการตลาดในช่วงปลายปีนี้ ล่าสุดซัมซุงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวชูโรงคือเตาอบไมโครเวฟรุ่น MW81Y-E, MW81GN-E, MW712N-E และ MW71C-E ที่มาพร้อมกับกล่องของขวัญสุดพิเศษจากซัมซุงที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามควรคู่แก่การมอบให้กันในโอกาสพิเศษ นอกจากนี้ผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 รุ่นนี้ ยังได้รับภาชนะอุ่นอาหารไปพร้อมกันอีกด้วย
“ซัมซุงคาดการณ์ว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ตลาดเตาอบไมโครเวฟจะมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ที่จะเกิดปรากฏการณ์ดับเบิ้ลเซลล์ (Double Sale) คือ ยอดขายเตาอบไมโครเวฟจะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าของช่วงเวลาปกติ ทั้งนี้มูลค่าตลาดรวมเตาอบไมโครเวฟในประเทศไทยสิ้นปีนี้น่าจะมีมูลค่ากว่า 1,230 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการเติบโตการเติบโต 17% หรือประมาณ 580,000 แสนเครื่อง โดยภายในสิ้นปีนี้ ซัมซุงเชื่อมั่นว่าจะรักษา ความเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 38% หรือคิดเป็นการเติบโต 47% ในจากปีที่ผ่านมา” นางสาวเสาวณีย์ กล่าวสรุป