ริเวอร์เบด เทคโนโลยี ผู้นำด้านเทคโนโลยีเสริมประสิทธิภาพของระบบไอที (IT Performance Solution) เปิดตัว Riverbed Steelhead Cloud ?และ Riverbed Whitewater ? โซลูชั่นใหม่สำหรับแอพพลิเคชั่นและสตอเรจที่อยู่ในสภาพแวดล้อมของระบบคลาวด์สาธารณะ (public cloud) ซึ่งพัฒนาบนฐานความสำเร็จในการทำให้องค์กรขนาดใหญ่และขนาดเล็กสามารถสร้างระบบคลาวด์ส่วนตัว (private cloud) ขึ้นได้ เมื่อผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้ทำงานประสานกับ กลุ่ม ผลิตภัณฑ์ Wide Area Network (WAN) Optimization Solutions และ Visibility Solutions ของริเวอร์เบดที่ได้รับรางวัลยืนยันประสิทธิภาพมากมายในขณะนี้ จะช่วยให้แผนกไอทีมีความพร้อมในการสนับสนุนองค์กรที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงกันทั่วโลกให้สามารถเพิ่มพูนประสิทธิภาพของระบบได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่
เพื่อรองรับโลกาภิวัตน์และเสริมศักยภาพของบุคลากรในการทำงานแบบ Remote Office ก่อนหน้านี้แผนกไอทีได้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเพรียบพร้อมตามขีดความสามารถขององค์กรที่จะจัดหาให้ได้ แต่เพื่อเอาชนะความซับซ้อนของรูปแบบการทำงานดังกล่าว องค์กรระดับโลกจำนวนมากได้ผนวกรวมทรัพยากรด้านไอทีของตนเป็นระบบคลาวด์ส่วนตัว (private cloud) อย่างไรก็ตาม การใช้งานข้อมูลได้ขยายวงออกไปจากเดิม และระยะทางก็ทำให้ผลการปฏิบัติงานช้าลง
ด้วยเหตุนี้ องค์กรระดับโลกจึงได้นำ WAN optimization และ visibility solutions มาใช้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ปัจจุบัน กว่า 8,700 องค์กรทั่วโลกไว้วางใจ Riverbed ให้เป็นผู้ช่วยวิเคราะห์ เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างเอกภาพของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของตน ขณะที่หลายองค์กรเริ่มผนวกเรื่องระบบ public cloud ไว้ในกลยุทธ์ด้านไอทีของตน พวกเขาพบว่าประเด็นปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพอันเดียวกันนี้กระทบต่อระบบ private cloud และการรวมระบบไอทีให้เป็นเอกภาพ ก็เป็นสิ่งที่ท้าทายพวกเขาในการพัฒนาสภาพแวดล้อมแบบ public cloud เช่นกัน
"ฝ่ายไอทีขององค์กรที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงกันทั่วโลกมีหน้าที่พัฒนาระบบไอทีที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ยังคงต้องให้บริการที่น่าประทับใจแก่ผู้ใช้ด้วย" คุณวรกร ภัทรายานันท์ ผู้อำนวยการภูมิภาค ประจำประเทศไทยม มาเลเซีย และภาคพื้นอินโดจีนของริเวอร์เบด กล่าว "ระบบ private และ public cloud ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น แต่มาพร้อมกับอุปสรรคด้านประสิทธิภาพการทำงานที่เกิดจากระยะทางระหว่างผู้ใช้และข้อมูล ริเวอร์เบดช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นและรวดเร็วในการทำงาน โดยฝ่ายไอทีไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบที่ใช้อยู่ ริเวอร์เบดจะยังคงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในส่วนที่องค์กรทั้งหลายต้องการ ด้วยโซลูชั่นที่ติดตั้ง ใช้งาน และบริหารที่จัดการง่าย ไม่ซับซ้อน”
ปลดปล่อยพลังของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในระบบคลาวด์
เพื่อเร่งกระบวนการถ่ายโอนข้อมูลไปยัง public cloud และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่โฮสต์ไว้ใน public cloud ดังกล่าว ริเวอร์เบดจึงได้เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ Riverbed? Cloud Steelhead? ซึ่งช่วยให้การทำงานในองค์กรและหน่วยงานของรัฐเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยโซลูชั่นแถวหน้าในตลาดท่พัฒนามาเพื่อให้กับ public cloud ทั้งนี้ Cloud Steelhead ได้รับการออกแบบเพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้งและการขยายระบบรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นภายในสภาพแวดล้อมของผู้ให้บริการระบบคลาวด์ เพื่อเร่งกระบวนการโอนย้ายข้อมูลไปยัง public cloud และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานสำหรับแอพพลิเคชั่นที่โฮสต์ใน public cloud จากการเปิดตัว Cloud Steelhead ในครั้งนี้ ริเวอร์เบดยังได้ขยายขอบเขตของวิสัยทัศน์ ‘anywhere acceleration’ ในส่วนของข้อมูลองค์กรและแอพพลิเคชั่น ซึ่งรวมถึงการแก้ไขปัญหาว่าด้วยประสิทธิภาพการทำงานทั้งในสภาพแวดล้อมแบบ private, public และ hybrid cloud
สภาพแวดล้อมแบบ public cloud ทำให้ได้แพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสำหรับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรไอที องค์กรต่างๆ จึงให้ความใจระบบคลาวด์ในลักษณ์นี้อย่างมากในปัจจุบันเพื่อใช้ประโยชน์ขีดความสามารถและคุณสมบัติการประมวลผลที่เสียค่าใช้จ่ายตามจริง (pay-as-you-go) ความสามารถในการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นกับคู่ค้า และสำหรับการทดสอบและการพัฒนา อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก public cloud computing ในปัจจุบัน องค์กรต่างๆ ถูกผลักดันให้เลือกระหว่างผู้ให้บริการ cloud computing ที่ยืดหยุ่นและประหยัดค่าใช้จ่าย และข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพการทำงานที่มีอยู่ตามปกติในแอพพลิเคชั่นและเครือข่ายปัจจุบัน บัดนี้ ด้วยการเอาชนะปัญหาประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่นและเครือข่าย Cloud Steelhead ช่วยเร่งกระบวนการของการโอนย้ายข้อมูลและแอพพลิเคชั่นไปสู่ public cloud และเร่งการเข้าถึงข้อมูลและแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นได้จากทุกที่ Cloud Steelhead ซึ่ง ทำงานประสานกับ Steelhead? appliances, Virtual Steelhead? appliances และ Steelhead mobile client ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมไอทีขององค์กรที่มีอยู่ ทั้งยังมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผนวกกับระบบคลาวด์ได้อย่างแนบเนียน ดังต่อไปนี้:
Transparent cloud interception: ด้วยการเปิดตัว “Steelhead Discovery Agent” ใหม่ ริเบอร์เบดช่วยให้การผนวกรวม WAN optimization เข้ากับสภาพแวดล้อมระบบคลาวด์ทำได้ง่ายขึ้น ด้วยวิธีการใหม่นี้ ริเวอร์เบดประกันได้ว่า WAN optimization สามารถนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมเสมือนที่ทำงานอัตโนมัติ ซึ่งลูกค้าสามารถเปลี่ยนแปลงที่ตั้งจริงของเซิร์ฟเวอร์ได้ตลอดเวลา ด้วย cloud interception รูปแบบใหม่นี้ เซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ WAN optimization จะ redirect การเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติไปยัง Cloud Steelhead ที่เหมาะสม แม้ว่าจะเปลี่ยน server IP address หรือ subnet ก็ตามCloud-like pricing model: รูปแบบการกำหนดราคาแบบ subscription-based ทำให้เกิด cloud-like economics สำหรับ WAN optimization ริเวอร์เบดนำเสนอบริการซื้อสิทธิ์ในการใช้ซอฟต์แวร์ระยะสั้น 6 เดือน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าที่ใช้ Cloud Steelhead สามารถเปลี่ยนจาก capex ไปเป็น opex เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขและความต้องการด้าน WAN optimizationการจัดการในลักษณะ portal-based ที่สะดวกง่ายดาย: "Riverbed Cloud Portal" ใหม่ ช่วยให้การติดตั้งใช้งานง่ายขึ้น ทั้งยังบริหารจัดการ ออกไลเซ่นส์ และการอัพเกรด Cloud Steelhead ทำได้อย่างรวดเร็ว ด้วยขั้นตอนเพียงไม่กี่คลิก ลูกค้าสามารถปรับใช้ Cloud Steelhead รุ่นใหม่นี้ และใช้อินเตอร์เฟซที่ชาญฉลาดเพื่อจัดการความจุ ที่ตั้ง และอื่น ๆEasy cloning: ผู้ดูแลระบบสามารถใช้การตั้งค่าและการกำหนดค่าของ Cloud Steelhead ที่มีอยู่ เพื่อนำ Cloud Steelhead ตัวใหม่ เชื่อมต่อออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ในเบื้องต้น Steelhead Cloud v1.0 จะต่อเชื่อมกับ Amazon EC2 และ Virtual Private Cloud (Amazon VPC)
ปลดปล่อยพลังของ Cloud Storage
หลายองค์กรต่างก็ต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์การปกป้องข้อมูลของตนให้มากขึ้นด้วยระบบ cloud storage ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถโอนย้ายข้อมูลแบบ off-site ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างดาต้าเซ้นเตอร์แห่งที่สอง ทั้งยังช่วยร่นเวลากู้คืนข้อมูล ลดค่าใช้จ่ายในการสำรองข้อมูล และช่วยให้เสียค่าใช้จ่ายด้านสตอเรจเท่าที่จำเป็น และด้วยการขยายขีดความสามารถด้าน acceleration และ deduplication ให้กับคลาวด์สตอเรจ ฟังก์ชั่น cloud storage accelerator ใน Riverbed Whitewater? appliance ซึ่งทำหน้าที่กำหนดเป้าหมายการจัดเก็บสำรองข้อมูลและเลือก archive workloads จะมีวิธีการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่าย ที่ทำให้องค์กรต่อเชื่อมโครงสร้างพื้นฐานด้านการสำรองข้อมูลและกลยุทธ์ในการกู้คืนความเสียหายที่มีอยู่ไปยัง cloud storage ได้อย่างลงตัว
เร่งประสิทธิภาพและความเร็วใน Cloud Storage
ไม่แปลกที่การเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นทวีคูณในส่วนของปริมาณข้อมูลจะกลายเป็นปัญหาท้าทายที่ยากจะจัดการสำหรับหลายๆ องค์กร และหลายรายประสบปัญหากู้คืนข้อมูลได้ช้าขณะกำลังพยายามเรียกข้อมูลจากสำนักงานที่อยู่ห่างไกล Whitewater appliance ช่วยแก้ปัญหานี้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลที่องค์กรนั้นใช้อยู่ เพื่อทำการ accelerate และ deduplicate ข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ และทำให้สามารถเรียกคืนข้อมูลอย่างรวดเร็วจากสำนักงานอื่นที่อยู่นอกพื้นที่เมื่อใดก็ได้ นอกจากนี้ Whitewater appliance จะทำหน้าที่เป็นเป้าหมายสำหรับซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลที่องค์กรนั้นใช้อยู่ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนมหาศาลในการผนวกหรือการกำหนดค่าที่ซับซ้อน นอกจากนี้ยังช่วยให้การดำเนินตามแผนงานที่เกี่ยวข้องกับ Whitewater appliance ทำได้เร็วขึ้น นั่นหมายความว่า ลูกค้าสามารถเริ่มต้นถ่ายโอนข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง สำหรับองค์กรที่ได้ทดลองใช้ Whitewater appliance พบ backup windows น้อยลง 35-40 เปอร์เซนต์ ขณะทำการสำรองข้อมูลเต็มรูปแบบเป็นรายสัปดาห์ เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการสำรองข้อมูลแบบใช้ดิสก์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เพื่อปรับปรุงการกู้คืนระบบจากความเสียหาย (Disaster Recovery: DR) ความเร็วในการเรียกคืนข้อมูลจะถูกเร่งด้วย Whitewater appliance โดยใช้ประโยชน์จากความสามารถหลักของริเวอร์เบดด้าน performance optimization ผ่านระบบเครือข่าย ในการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานที่ดำเนินการโดยบริษัทวิเคราะห์ชื่อ Enterprise Strategy Group การเรียกคืนข้อมูลจากระบบคลาวด์ทำได้โดยการบีบอัดเป็นไฟล์ ZIP ในอัตราความเร็วประมาณ 13 MB/วินาที ในขณะที่ deduplication-friendly vmdk files ถูกเรียกคืนด้วยความเร็ว 47 MB/วินาที ด้วย Whitewater appliance
การ Deduplicate และ Optimize ระบบ Cloud Storage
ริเวอร์เบดกำลังขยายขีดความสามารถด้าน deduplication ให้กับสตอเรจที่ไม่ได้ใช้งานต่อเนื่อง ทั้งนี้ Riverbed deduplication ซึ่งมีการติดตั้งใช้งานในกว่า 8,700 องค์กร ทำให้การทำสำเนาข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าในอดีต โดยการลดจำนวนของข้อมูลที่มีการโอนระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ ปัจจุบัน Whitewater appliance จะขยายขีดความสามารถด้าน deduplication เหล่านั้นไปยังระบบ cloud storage ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสำรองข้อมูลและกู้คืนความเสียหาย โดยการลดค่าใช้จ่ายในส่วนของสตอเรจ ตลอดจนความต้องการแบนด์วิดธ์สำหรับการย้ายข้อมูลที่สำรองไว้เข้าและออกจากระบบคลาวด์
การรักษาความปลอดภัยข้อมูลในสภาพแวดล้อมระบบ Cloud Storage
หลายองค์กรขยายเพื่อรองรับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ควบคุมค่าใช้จ่ายและทำให้ถึงมาตรฐานสูงด้านการปกป้องข้อมูล จากผลสำรวจ*ของ Gartner ที่สอบถามความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุมเมื่อเร็วๆ เพื่อค้นหาว่าพวกเขากังวลเรื่องใดเกี่ยวกับ cloud storage มากที่สุด จากผู้เข้าร่วมประชุม 62 คน 59% ของผู้ซื้อสตอเรจระบุว่าความปลอดภัยเป็นประเด็นที่คำนึงถึงมากที่สุด
เพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถตอบสนองความต้องการด้านการปกป้องข้อมูล Whitewater appliance จะใช้ประโยชน์จากระบบจัดการหลักๆ ที่ทันสมัย เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างรอบคอบ และในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ความยืดหยุ่นในการเรียกคืนข้อมูลไปยังสำนักงานที่ตั้งอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ทั้งนี้ ด้วยการเข้ารหัสข้อมูล ณ จุดที่ปฏิบัติงานอยู่ขณะนั้น ระหว่างโดยสารเครื่องบิน ตลอดจนขณะอยู่ในระบบคลาวด์ โดยใช้ระบบ 256-bit AES encryption และ SSL v3 นั้น Whitewater appliance ทำให้สามารถเข้ารหัสเป็นสองชั้น เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลใดๆ ที่ย้ายเข้าไปในระบบคลาวด์ไม่ถูกบุกรุก และสร้างโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยแบบเบ็ดเสร็จสำหรับ cloud storage
ความง่ายและความยืดหยุ่นในการจัดการ Cloud Storage
Eliminating Vendor Lock-in: Whitewater appliance ต่อเชื่อมอย่างแนบเนียนกับสภาพแวดล้อมใน cloud storage ด้วยการขับเคลื่อนของ EMC? Atmos?, AT&T Synaptic Storage as a ServiceSM และ Amazon S3 โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นระบบ back-end หรือ front-end ที่องค์กรต่างๆ ใช้เพื่อกำหนดกลยุทธ์การสำรองข้อมูล ซึ่งช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นในการเลือกผู้ให้บริการระบบคลาวด์หลายราย
ด้วยการให้การสนับสนุนสำหรับผู้ขาย Cloud storage อย่างหลากหลาย Whitewater ทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นในการเลือก cloud storage solution ที่ตรงตามความต้องการด้านการกู้คืนระบบจากความเสียหาย (DR) ข้อตกลงระดับการให้บริการ (service level agreement) และงบประมาณ เนื่องจาก Whitewater appliance มีคุณสมบัติด้านการเข้ารหัสในตัว ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความปลอดภัยระหว่างเปลี่ยนผู้ให้บริการระบบคลาวด์จากรายหนึ่งไปยังอีกรายหนึ่ง หากจำเป็นต้องทำเช่นนั้นในอนาคต
นอกจากนี้ ปัจจุบันผู้ให้บริการยังสามารถใช้ประโยชน์จาก Riverbed Whitewater appliance เพื่อนำเสนอโซลูชั่นด้าน Cloud-based backup และ disaster recovery ที่มีความปลอดภัย ใช้งานง่าย และประหยัดค่าใช้จ่าย ผ่าน EMC? Atmos? partner ecosystem ได้อีกด้วย
ลดค่าใช้จ่ายด้านการปกป้องข้อมูล
Whitewater จะช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากรูปแบบการคิดค่าบริการตามจริง (pay-as-you go) ของผู้ให้บริการได้อย่างสะดวก แทนที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาวดังกล่าว อย่างเช่น การลงทุนสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ รูปแบบนี้ทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นสูงในการขยายหรือลดขีดความสามารถด้านการจัดการข้อมูลได้ตามต้องการ โดยไม่เกิดภาระค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้องค์กรปรับขนาดตามความต้องการและการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่ทำพร้อมกันได้มากขึ้น โดยไม่ต้องวางแผนกำลังการผลิต การลงทุน หรือกำลังคน Whitewater appliance จะทำให้การสำรองข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ง่ายและเป็นไปได้ในแง่ต้นทุนมากขึ้น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายโอนข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลด้วยเทคโนโลยีที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว พร้อม form factor ของ appliance แบบ pre-integrated ที่ติดตั้งและใช้งานง่าย ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายที่คาดการณ์ได้
ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ได้แก่ Riverbed Whitewater appliance ใหม่ ซึ่งเป็น cloud storage accelerator ที่มุ่งตอบสนองความต้องการด้านการสำรองข้อมูลและ select archive workloads ที่มาพร้อมกับวิธีการที่ง่ายและมีประสิทธิภาพสำหรับการ offsite ข้อมูลไปยังสภาพแวดล้อมแบบ cloud storage ที่ขับเคลื่อนโดย EMC? Atmos?, AT&T Synaptic Storage as a ServiceSM และ Amazon S3
Additional information about Riverbed (NASDAQ: RVBD) is available at www.riverbed.com.