ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนดังกล่าว มาจากการที่นางสาวนวพร เรืองสกุล (Ms. Nawaaporn Ryanskul) ได้แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการธนาคาร ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2553 โดยคณะกรรมการธนาคาร ได้มีมติแต่งตั้งนายสุพล วัธนเวคิน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคาร และนางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน (Ms. Thitinan Wattanavekin) ขึ้นเป็นกรรมการ แทนการลาออกของนางสาวนวพรในครั้งนี้
โดยนางสาวนวพร ได้เปิดเผยว่า ได้ร่วมงานกับธนาคารเกียรตินาคินเป็นเวลาร่วม 7 ปี และกล่าวว่า ณ ปัจจุบัน ธนาคารมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง มีการบริหารที่มีประสิทธิภาพ และได้วางแผนงานในอนาคตไว้อย่างเหมาะสมแล้ว การลาออกจากตำแหน่งในครั้งนี้ ตนเองได้แจ้งความประสงค์เป็นการล่วงหน้าไว้ระยะหนึ่งแล้ว และได้มีการเตรียมการร่วมกับคณะกรรมการธนาคารและคณะกรรมการบริหาร เพื่อการปรับเปลี่ยนจะเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นประโยชน์ต่อธนาคารในอนาคต ซึ่งต่อจากนี้ ตนเองจะได้ไปทำงานทางด้านสังคมและอื่นๆ ตามที่ตั้งใจไว้
ด้านนายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล ที่ได้รับการแต่งตั้ง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่นั้น ปัจจุบันอายุ 50 ปี ได้ร่วมงานกับเกียรตินาคินมากว่า 10 ปี โดยร่วมก่อตั้งสายสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้สามารถฟื้นฟูธุรกิจขึ้นมาได้จากสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ จนลูกค้าประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากนั้นได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในสายงานสินเชื่อธุรกิจ และสายงานสินเชื่อเช่าซื้อรายย่อย ตามลำดับ และต่อมาได้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารเกียรตินาคินเป็นคนแรกหลังจากที่เกียรตินาคินได้รับการปรับสถานะให้เป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบเมื่อปี 2548 โดยในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ร่วมผลักดันสินทรัพย์ของธนาคารให้เติบโตขึ้นจาก 68,000 ล้านบาท จนถึงกว่า 130,000 ล้านบาทในปัจจุบัน
นายธวัชไชยใช้ชีวิตวัยเรียนและทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกากว่า 17 ปี มีประสบการณ์การทำงานที่หลากหลายโดยเริ่มต้นการทำงานเป็นวิศวกรเซมิคอนดักเตอร์ถึง 7 ปีก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทยและได้ร่วมงานกับบริษัทหลักทรัพย์ภัทรธนกิจในฝ่ายวานิชธนกิจ ก่อนร่วมงานกับเกียรตินาคิน
นายธวัชไชยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ (ไฟฟ้า) (เกียรตินิยม) ปริญญาโทวิศวกรรมศาสตร์ (คอมพิวเตอร์) และ ปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (MBA) ทั้งหมดจากมหาวิทยาลัยเดียวกันคือ The University of Texas at Austin และ The Senior Executive Program จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ธนาคารเกียรตินาคิน ได้รับการยอมรับว่าเป็นธนาคารที่มีการเติบโตอย่างมั่นคง สะท้อนจากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกสิ้นสุด 30 กันยายน 2553 ธนาคารสามารถขยายสินเชื่อรวมได้ 16% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10-15% ซึ่งปรับจากเป้าหมายเดิมเมื่อต้นปีที่ 8-12% โดยมีกำไรสุทธิรวม 2,349 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.8% จากงวด 9 เดือนของปีก่อน ด้านสินทรัพย์มียอดรวมอยู่ที่ 133,332 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% จากสิ้นปี 2552 นอกจากนี้ เอ็นพีแอลยังลดลงมาอยู่ที่ 4.84% จาก 5.64% ณ สิ้นปี 2552
Note to Editor: เกียรตินาคิน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2514 เปิดดำเนินธุรกรรมธนาคารพาณิชย์ภายใต้ชื่อ “ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)” เมื่อปี 2548 ล่าสุด บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ไม่มีประกันของธนาคารเกียรตินาคิน คงเดิมที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ระบบการบริหาร ความเสี่ยงที่เป็นที่ยอมรับ และความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ การขยายฐานลูกค้า เงินฝากรายย่อย และฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 133,332 ล้านบาท โดยมีสำนักงานใหญ่และสาขา 62 แห่งทั่วประเทศ
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อทิพวรรณ วอทอง (โม)
หรือ E-mail: [email protected];[email protected]