กระทรวงพลังงานมอบหลอดผอมเบอร์ 5 ให้ จ.กระบี่ ช่วยลดโลกร้อน ประหยัดค่าไฟฟ้า 7.2 หมื่นบาท/ปี

จันทร์ ๑๐ มกราคม ๒๐๑๑ ๑๖:๓๖
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานพิธีมอบหลอดผอมเบอร์ 5 ให้กับจังหวัดกระบี่ โดยมีนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นผู้รับมอบ

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบหลอดผอมเบอร์ 5 ให้กับจังหวัดกระบี่ว่า “กระทรวงพลังงานปรับเปลี่ยนหลอดไฟของศาลากลางจังหวัดกระบี่เป็นหลอดผอมเบอร์ 5 จำนวน 480 หลอด ซึ่งจะช่วยลดงบประมาณในการจ่ายค่าไฟฟ้าได้ถึง 72,000 บาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 12 ตันต่อปี อันจะเป็นตัวอย่างอาคารภาครัฐที่มีการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และลดภาวะโลกร้อน โอกาสนี้ จึงขอความร่วมมือร่วมใจจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของศาลากลางจังหวัดกระบี่ทุกท่าน ได้ดำเนินการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่อาคารอื่นๆ และประชาชนทั่วไปด้วย”

นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า “ปัจจุบันการใช้พลังงานในอาคารศาลากลางจังหวัดฯ ส่วนใหญ่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก โดยในปี 2552 มีการใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 285,500 หน่วยต่อปี คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 960,000 บาทต่อปี ซึ่งหากแบ่งตามสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าตามระบบต่างๆ พบว่าใช้ในระบบปรับอากาศร้อยละ 55 ระบบแสงสว่างร้อยละ 25 และระบบอื่นๆ เช่น อุปกรณ์สำนักงาน ลิฟต์ ปั๊มน้ำ ฯลฯ ร้อยละ 20 การดำเนินการเรื่องการประหยัดพลังงานที่ผ่านมา จังหวัดฯ ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานของกระทรวงพลังงาน ได้แก่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และสำนักงานพลังงานจังหวัดกระบี่ ในการเผยแพร่ความรู้ในหลายๆ เรื่อง เช่น การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด การจัดทำแผนพลังงานชุมชน เป็นต้น และยังได้รับความอนุเคราะห์จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เข้ามาปรับเปลี่ยนหลอดผอมแบบเดิมเป็นหลอดผอมเบอร์ 5 ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตการทำงานของข้าราชการ และประชาชนผู้มาติดต่อใช้บริการให้ดียิ่งขึ้น”

กระทรวงพลังงานจะปรับเปลี่ยนอุปกรณ์หลอดฟลูออเรสเซนต์เดิม เป็นหลอดผอมเบอร์ 5 ในอาคารภาครัฐ รวม 680 แห่ง นอกจากนี้ ยังจัดทำ “โครงการส่งเสริมและกำกับดูแลอาคารควบคุมภาครัฐ” เพื่อให้สนับสนุนและช่วยเหลืออาคารควบคุมที่เป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอิสระ รวมประมาณ 800 แห่ง ให้สามารถดำเนินการอนุรักษ์พลังงานได้ถูกต้องและครบถ้วนตามกฎหมาย โดยคาดว่า หลังจากเสร็จสิ้นโครงการดังกล่าวแล้ว ในปี 2554 จะสามารถประหยัดพลังงานได้เทียบเท่าน้ำมันดิบประมาณ 25,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 620 ล้านบาทต่อปี และลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 147,000 ตันต่อปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๐๖ นักศึกษาดิจิทัลมีเดีย SPU คว้า 3 รางวัลกราฟิกดีไซน์ระดับประเทศ ในงาน Thailand Design Creator Competition
๑๘:๑๗ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์คอนเวนชั่น รับมอบตราสัญลักษณ์ มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (TMVS) ในงาน MICE Standards Day
๑๘:๐๑ ดีป้า เปิดฉาก depa ESPORTS ACCELERATOR PROGRAM ติวเข้ม 10 ทีมน้องใหม่ ก่อนปล่อยของในกิจกรรม Demo Day Business
๑๘:๕๖ แคนนอนจัดสัมมนาใหญ่ THINK BIG ชูเทรนด์ดิจิทัลและโซลูชันอัจฉริยะ หนุนองค์กรเติบโตยั่งยืน
๑๘:๑๒ เปิดรับทุน ปลูกต้นกล้าพยาบาล 3 สถาบัน ประจำปีการศึกษา 2568 รอบสุดท้าย
๑๘:๕๒ ปรับกลยุทธ์โฆษณาปี 2568 ที่นักการตลาดต้องรู้ ด้วย Blockdit for Business
๑๘:๒๔ เอสไอจีจับมืออำพลฟูดส์ เปิดตัวนวัตกรรมขวดกระดาษครั้งแรกของไทย
๑๘:๓๕ ม.หอการค้าไทย ผนึกพันธมิตรชั้นนำจัดแข่งบาสเกตบอลเพื่อวัยรุ่น 3?3 UTCC Championship 2025 ชิงถ้วยและเงินรางวัล 3
๑๘:๐๕ เฮงลิสซิ่ง เดินหน้าขยายสาขา 32 แห่ง ปูพรมภาคเหนือ-กลาง-ตะวันตก พร้อมให้บริการสินเชื่อ 2 พฤษภาคม 2568
๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน