กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--ก.ส.ล.
ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานเปิดงานสัมมนาครบรอบ 4 ปี ก.ส.ล.และ 1 ปี เอเฟท เผย รมต.พาณิชย์พร้อมสนับสนุนเอเฟท แนะให้ชักจูงผู้ค้าต่างประเทศมาซื้อขาย และจะกระตุ้นตลาดด้วยการนำสินค้าเกษตรจากโครงการรับจำนำเข้ามาซื้อขาย ด้านเลขาธิการ ก.ส.ล.เห็นว่าจะช่วยกระตุ้นปริมาณการซื้อขายได้ และเตรียมพร้อมพัฒนาตลาดเพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.48 นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ได้มอบหมายให้นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา "กลยุทธ์การทำกำไรในตลาดล่วงหน้า" เนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปีแห่งการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) และครบรอบ 1 ปี แห่งการเปิดซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟท) ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพมหานคร
ในงานนี้ นายการุณ ได้เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มองว่า ภาครัฐคงต้องเข้าไปสนับสนุนการดำเนินงานของเอเฟท เนื่องจากการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าจะเป็นทางเลือกที่สำคัญที่กระทรวงพาณิชย์มุ่งหวังจะให้เป็นกลไกในการสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรในระยะยาว
นอกจากนี้ รัฐมนตรียังเห็นว่า การที่เอเฟทจะประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องชักนำให้ผู้ซื้อขายสินค้าเกษตรเข้ามาซื้อขายในเอเฟทให้มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าระหว่างประเทศ (International Trader) ที่มีการซื้อขายสินค้าเกษตรในปริมาณมาก ซึ่งการมีอุปทานสินค้ารองรับที่มากพอ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเอเฟทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายการุณกล่าวต่อว่า กระทรวงพาณิชย์จะช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มปริมาณการซื้อขาย โดยอาจจะนำข้าวที่ได้จากโครงการรับจำนำบางส่วนเข้าไปซื้อขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ซึ่งจะส่งผลให้มีผู้ซื้อขายสินค้าเกษตรทั้งในและต่างประเทศสนใจเข้ามาซื้อขายในเอเฟทมากขึ้น
ทางด้านนายชัยพัฒน์ สหัสกุล เลขาธิการคณะกรรมการ ก.ส.ล.ได้ให้ความเห็นว่า แนวทางของกระทรวงพาณิชย์ที่จะนำข้าวจากโครงการรับจำนำเข้ามาซื้อขายผ่านเอเฟทนั้น จะส่งผลดีต่อเอเฟทเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยกระตุ้นให้มีปริมาณการซื้อขายมากขึ้น นอกจากนี้ หากชักจูงให้ผู้ค้าระหว่างประเทศเข้ามาซื้อขายในเอเฟทได้ ก็จะช่วยผลักดันให้ราคาสินค้าเกษตรในเอเฟทพัฒนาขึ้นเป็นราคาอ้างอิงในตลาดโลกได้
สำหรับ ก.ส.ล.ก็มีมาตรการที่จะส่งเสริมและพัฒนาให้กลไกการซื้อขายในเอเฟทมีมาตรฐานทัดเทียมตลาดล่วงหน้าชั้นนำในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กลุ่มผู้ค้าระหว่างประเทศในการเข้ามาซื้อขายในเอเฟท
พร้อมกันนี้ นายชัยพัฒน์ได้กล่าวต่อว่า ในรอบปีที่ผ่านมาถือได้ว่าเอเฟทมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจะเห็นได้จากปริมาณการซื้อขยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นใจว่าในปีต่อไปหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ก็จะช่วยผลักดันให้เอเฟทเติบโตขึ้นได้อย่างมั่นคง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์ประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2685-3250 ต่อ 207
โทรสาร 0-2685-3259 หรือ
http://www.after.or.th--จบ--