กระทรวงพาณิชย์พร้อมผลักดันเอเฟท เตรียมนำข้าวจากโครงการจำนำเข้ามาซื้อขาย

ศุกร์ ๒๗ พฤษภาคม ๒๐๐๕ ๑๔:๒๑
กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--ก.ส.ล.
ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานเปิดงานสัมมนาครบรอบ 4 ปี ก.ส.ล.และ 1 ปี เอเฟท เผย รมต.พาณิชย์พร้อมสนับสนุนเอเฟท แนะให้ชักจูงผู้ค้าต่างประเทศมาซื้อขาย และจะกระตุ้นตลาดด้วยการนำสินค้าเกษตรจากโครงการรับจำนำเข้ามาซื้อขาย ด้านเลขาธิการ ก.ส.ล.เห็นว่าจะช่วยกระตุ้นปริมาณการซื้อขายได้ และเตรียมพร้อมพัฒนาตลาดเพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.48 นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ได้มอบหมายให้นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา "กลยุทธ์การทำกำไรในตลาดล่วงหน้า" เนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปีแห่งการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) และครบรอบ 1 ปี แห่งการเปิดซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟท) ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพมหานคร
ในงานนี้ นายการุณ ได้เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มองว่า ภาครัฐคงต้องเข้าไปสนับสนุนการดำเนินงานของเอเฟท เนื่องจากการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าจะเป็นทางเลือกที่สำคัญที่กระทรวงพาณิชย์มุ่งหวังจะให้เป็นกลไกในการสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรในระยะยาว
นอกจากนี้ รัฐมนตรียังเห็นว่า การที่เอเฟทจะประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องชักนำให้ผู้ซื้อขายสินค้าเกษตรเข้ามาซื้อขายในเอเฟทให้มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าระหว่างประเทศ (International Trader) ที่มีการซื้อขายสินค้าเกษตรในปริมาณมาก ซึ่งการมีอุปทานสินค้ารองรับที่มากพอ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเอเฟทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายการุณกล่าวต่อว่า กระทรวงพาณิชย์จะช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มปริมาณการซื้อขาย โดยอาจจะนำข้าวที่ได้จากโครงการรับจำนำบางส่วนเข้าไปซื้อขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ซึ่งจะส่งผลให้มีผู้ซื้อขายสินค้าเกษตรทั้งในและต่างประเทศสนใจเข้ามาซื้อขายในเอเฟทมากขึ้น
ทางด้านนายชัยพัฒน์ สหัสกุล เลขาธิการคณะกรรมการ ก.ส.ล.ได้ให้ความเห็นว่า แนวทางของกระทรวงพาณิชย์ที่จะนำข้าวจากโครงการรับจำนำเข้ามาซื้อขายผ่านเอเฟทนั้น จะส่งผลดีต่อเอเฟทเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยกระตุ้นให้มีปริมาณการซื้อขายมากขึ้น นอกจากนี้ หากชักจูงให้ผู้ค้าระหว่างประเทศเข้ามาซื้อขายในเอเฟทได้ ก็จะช่วยผลักดันให้ราคาสินค้าเกษตรในเอเฟทพัฒนาขึ้นเป็นราคาอ้างอิงในตลาดโลกได้
สำหรับ ก.ส.ล.ก็มีมาตรการที่จะส่งเสริมและพัฒนาให้กลไกการซื้อขายในเอเฟทมีมาตรฐานทัดเทียมตลาดล่วงหน้าชั้นนำในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กลุ่มผู้ค้าระหว่างประเทศในการเข้ามาซื้อขายในเอเฟท
พร้อมกันนี้ นายชัยพัฒน์ได้กล่าวต่อว่า ในรอบปีที่ผ่านมาถือได้ว่าเอเฟทมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจะเห็นได้จากปริมาณการซื้อขยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นใจว่าในปีต่อไปหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ก็จะช่วยผลักดันให้เอเฟทเติบโตขึ้นได้อย่างมั่นคง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์ประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2685-3250 ต่อ 207
โทรสาร 0-2685-3259 หรือ
http://www.after.or.th--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO