“การปฏิวัติรูปแบบฟาร์มสุกรรักษ์สิ่งแวดล้อมนี้เป็นที่กล่าวถึงกันมาก โดยเฉพาะในชุมชนรอบๆฟาร์มที่นอกจากชาวชุมชนจะไม่ต้องประสบกับมลภาวะทางกลิ่นแล้ว สวนหย่อมและป่าไม้ยืนต้นภายในฟาร์มยังส่งผลให้สภาพแวดล้อมบริเวณฟาร์มเต็มไปด้วยความร่มรื่นเกิดบรรยากาศที่ดี แม้เพียงแค่ขับรถผ่านยังอาจคิดว่านี่ไม่ใช่ฟาร์มสุกรแต่เป็นรีสอร์ทมากกว่า ซึ่งซีพีเอฟมีเป้าหมายจะปรับปรุงฟาร์มให้เป็นฟาร์มสุกรรักษ์สิ่งแวดล้อมเช่นนี้ ให้ได้อีก 5-10 ฟาร์มภายในปี 2554” น.สพ.ดำเนินกล่าวและว่า จากนี้ไปแวดวงการเลี้ยงสุกรจะมีพัฒนาการขึ้นเป็นลำดับ และเชื่อว่าภาพฟาร์มสุกรรูปแบบเก่าๆ ที่สกปรกและมีกลิ่นเหม็นจะหมดไปในที่สุด ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคและชุมชนอย่างยั่งยืน
ฟาร์มสุกรของซีพีเอฟ ได้พัฒนากระบวนการผลิตที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นโครงการผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสุกร หรือ ไบโอแก๊ส ที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่โลก ก่อเกิดเป็นพลังงานทดแทนใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าภายในฟาร์ม ลดการปล่อยก๊าซมีเทนที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนออกสู่ชั้นบรรยากาศ ขณะที่ทุกฟาร์มได้ทำการปลูกต้นไม้ใหญ่ติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 18 ปี ทำให้ปัจจุบัน มีไม้ยืนต้น อาทิ ต้นสัก ต้นประดู่ ต้นยางพารา และต้นปาล์ม ที่เติบโตให้ร่มเงาเป็นจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่า และในอนาคตต้นยางพาราจะให้ผลในเชิงเศรษฐกิจได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ซีพีเอฟเป็นที่รู้จักและยอมรับจากผู้บริโภคในฐานะผู้นำด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร โดยเป็นผู้ผลิตอาหารปลอดสาร ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย ด้วยเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย ได้มาตรฐานสากล ที่สำคัญ ทุกกระบวนการผลิตล้วนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางเพื่อการบริโภคอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันยังคงมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการผลิตที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และช่วยลดภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่อง
ด้านสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ CPF
โทร. 02-625-7343-5, 02-631-0641, 02-638-2713
E - mail : [email protected]