ในปี 2553 ธนาคารได้รับการเพิ่มทุนครั้งที่ 2 จำนวน 6,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่มุ่งสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้น โดยการขยายสาขาและช่องทางการให้บริการเพิ่ม รวมถึงธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์สำหรับรายย่อยโดยการให้สินเชื่อสวัสดิการพนักงานและผลิตภัณฑ์ต่างๆให้ครอบคลุมถึงความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และโครงการสินเชื่อรากหญ้า หรือ Islamic Microfinanc ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่มีฐานะยากไร้ที่เป็นคนดี มีโอกาสเข้าสู่ระบบการเงินปกติ และยกระดับชุมชน ให้เข้าถึงแหล่งทุน
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของธนาคารในปี 2554 นายธีรศักดิ์กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ พันธกิจของธนาคาร โดยมุ่งสู่ความเป็นเลิศในระดับภูมิภาคเอเชีย ด้วยความเป็นเลิศในการให้บริการที่ถูกต้อง รวดเร็ว และประทับใจ มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเลิศในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสามารถแข่งขันในตลาดได้ โดยธนาคารจะเน้นขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าว่าใน 2 ปีข้างหน้า สัดส่วนลูกค้าของธนาคารจะเป็นกลุ่มบุคคลและรายย่อยเพิ่มขึ้นเป็น 60% ของลูกค้าทั้งหมด และสัดส่วนลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ให้เหลือเพียง 40% ของลูกค้าทั้งหมด
นอกจากนี้ iBank ยังได้เพิ่มยุทธศาสตร์ในการคืนคุณค่าสู่สังคม โดยเน้นการพัฒนาสังคมและชุมชน ทั้งจากโครงการภายใต้นโยบายของภาครัฐที่มีมติคณะรัฐมนตรีรองรับ และโครงการต่าง ๆ ที่ธนาคารพัฒนาขึ้น เพื่อสนับสนุนธุรกรรมทางการเงินแก่ประชาชน พร้อมทั้งยกระดับการจัดการด้านการเงินและการลงทุน สำหรับผู้ที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงระบบบริการทางการเงินให้มีความมั่นคงในการประกอบอาชีพมากยิ่งขึ้น
โดยในส่วนของโครงการภาครัฐเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน ตามมติคณะรัฐมนตรี ธนาคารคาดว่าจะดำเนินการ 3 โครงการ วงเงินสินเชื่อรวม 5,200 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.สินเชื่อเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถสาธารณะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2.สินเชื่อเพี่อช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft Loan) และ3.โครงการเป็นผู้บริหารและผู้จัดการเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)
อย่างไรก็ดี ธนาคารยังมีโครงการเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนของธนาคาร อีก 2 โครงการ วงเงิน 3,050 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน — กรุงเทพฯ รวม 50 เขต และ2.โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน — ภาคใต้
โดยในปี 2554 ธนาคารตั้งเป้าสินทรัพย์รวมไว้ที่ 131,316 ล้านบาท มียอดเงินฝาก 117,957 ล้านบาท มียอดสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 112,957 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 841 ล้านบ าท นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่ง ณ สิ้นปี 2553 ธนาคารมีสาขา 54 สาขา แบ่งเป็นสาขาในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 สาขา สาขาในภาคกลางและภาคตะวันออก 23 สาขา และสาขาในภาคใต้ 21 สาขา และจะเปิดเพิ่มอีก 25 สาขาทั่วประเทศ ทำให้ ณ สิ้นปี 2554 ธนาคารจะมีสาขาทั้งหมด 79 สาขา
“ibank ยังคงเน้นการให้บริการลูกค้าด้วยความเป็นมิตร และรวดเร็ว อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำระบบที่มีความทันสมัยซึ่งได้รับการพัฒนาจากปีที่ผ่านมา เพื่อเอื้อต่อการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิผลยิ่งขึ้นด้วย อาทิ ระบบการอำนวยสินเชื่อ ระบบ Core Banking ที่เชื่อมต่อกับระบบสนับสนุนต่างๆ อีกทั้งยังมีแผนที่จะเปิดศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) ขณะที่ทางด้านผลิตภัณฑ์ ibank จะมีการเปิดตัวบัตรเครดิต และผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบใหม่ๆ ที่น่าสนใจ พร้อมทั้งดำเนินแผนงานอย่างมีคุณธรรม โดยเรามีความยินดีให้ความช่วยเหลือด้านการปล่อยสินเชื่อแก่พี่น้องที่ยากจนที่เป็นคนดี พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ของธนาคารให้มีความหลากหลายตามความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด” นายธีรศักดิ์กล่าว
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลัง ให้บริการลูกค้าทุกศาสนา สำหรับลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์สินเชื่อและเงินฝากของธนาคาร สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ibank.co.th และโทร. 0-2650-6999 หรือสาขาของธนาคารทั่วประเทศ ธนาคารของคุณ ...อุ่นใจเมื่อใช้ ibank