นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพใน “การประชุมสัมมนากลุ่มประเทศสมาชิกสถาบันประกันเงินฝากในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 9 ประจำปี 2554” โดยมีกำหนดการสัมมนาในระหว่างวันที่ 19-20 มกราคม 2554 ซึ่งได้รับรับเกียรติจากคุณกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการเปิดการประชุมสัมมนาดังกล่าว
ผู้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้จะประกอบไปด้วยผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ จากสถาบันประกันเงินฝาก 20 แห่ง 15 ประเทศ รวมทั้งตัวแทนจากหน่วยงานในประเทศที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับหัวข้อสัมมนาในครั้งนี้คือ “Lesson Learned and Challenges of the Deposit Insurers in Dealing with Crisis” ซึ่งจะมีเนื้อหาสาระหลักเกี่ยวข้องกับการระดมความคิดแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการเตรียมความพร้อมรับมือวิกฤติการเงินในมุมมองของสถาบันประกันเงินฝากในประเทศต่างๆ รวมถึงวิธีการดำเนินการแก้ไขปัญหาสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ตาม การสัมมนาในครั้งนี้นอกจากจะส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ แล้ว ยังจะช่วยผลักดันให้สถาบันคุ้มครองเงินฝากไทยเป็นที่รู้จักของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศยิ่งขึ้น ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ในการเสริมสร้างและประสานความร่วมมือระหว่างกันต่อไป
ทั้งนี้ สถาบันคุ้มครองเงินฝากไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกของ The International Association of Deposit Insurers (IADI) หรือสมาคมคุ้มครองเงินฝากระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2545 มีสมาชิกจำนวน 62 สถาบัน มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความมีประสิทธิภาพของระบบคุ้มครองเงินฝากโดยการส่งเสริมให้คำแนะนำและความร่วมมือระดับนานาชาติกับสถาบันที่เป็นสมาชิก
สำหรับ Asia Pacific Regional Committee (APRC) เป็นคณะกรรมการภูมิภาคของ IADIซึ่งมีสมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น, ไทย, ออสเตรเลีย, บังคลาเทศ, ไต้หวัน, รัสเซีย, อินเดีย, เวียดนาม, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, คาซักสถาน, เกาหลี, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และ สิงค์โปร์ สมาชิกของ IADI และ APRC จะมีการประชุมสัมมนาเป็นประจำกันทุกปี โดยประเทศสมาชิกหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุมสัมมนาครั้งที่ 9 ในปีนี้
สำหรับผู้สนใจรายละเอียดต่างๆของสถาบันคุ้มครองเงินฝากสามารถติดตามได้ทาง www.dpa.or.th หรือ 02-272-0300