บริษัท ยูนิเกรนมาร์เก็ตติ้ง (1999) จำกัด บริษัทในเครือของโรงสียักษ์ใหญ่แห่งเชียงรายซึ่งประกอบธุรกิจค้าข้าวเกรดพรีเมี่ยมขายส่งในประเทศและส่งออกมากว่า 60 ปี ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดขยายสู่ตลาดค้าปลีกหวังผู้บริโภคไทยได้บริโภคข้าวเกรดพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ใหม่ “ธรรม” พร้อมนำวัฒนธรรมการให้สู่สังคมไทยปัจจุบัน พร้อมตั้งงบประมาณเพื่อการสร้างแบรนด์ 40 ล้านบาท สำหรับปีแรก
นายปนิธิ เหล่าธรรมทัศน์ Chief Executive Office & Founder บริษัท ยูนิเกรนมาร์เก็ตติ้ง (1999) จำกัด กล่าวว่า “บริษัท ยูนิเกรนมาร์เก็ตติ้ง (1999) จำกัด และบริษัทโรงสีกำพล จำหน่ายข้าวตราสามงู ตรามิสเตอร์ไรซ์ ตราโอเคไรซ์ ตราฮีโร่ โดยแบรนด์หลักคือ ข้าวตราสามงู ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวเขี้ยวงู ในช่องทางจัดจำหน่ายค้าส่งแบบดั้งเดิม (ยี่ปั้ว ซาปั้ว) ซึ่งเรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ รวมถึงรู้จักแหล่งผลิตข้าวคุณภาพชั้นดีของทางภาคเหนือเป็นอย่างดี ทำให้ข้าวของเรานั้นมีคุณภาพสม่ำเสมอ อีกทั้งเรายังมีความผูกพันกับเกษตรผู้ผลิตข้าวในแถบภาคเหนือมาเป็นเวลานาน ซึ่งเราทำการค้าขายกันอย่างเป็นธรรม ทำให้เราสามารถรักษาคุณภาพของข้าวได้ดีตลอดมา ด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้ข้าวตราสามงู เป็นตราสินค้าที่มีราคาขายส่งและขายปลีกสูงสุดในกลุ่มข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวที่ขายผ่านช่องทางการค้าส่งแบบดั้งเดิม (ยี่ปั้ว ซาปั้ว) กล่าวได้ว่าเราทำการค้าแบบ B2B มาโดยตลอด”
นายพงศ์อธิป เหล่าธรรมทัศน์ Chief Commercial Officer บริษัท ยูนิเกรน มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ได้กล่าวถึงโอกาสทางการตลาดแบบ B2C ของบริษัทฯ ว่า “การรับประทานข้าวเป็นวัฒนธรรมของคนไทย และคนไทยบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก จากจำนวนประชากรในปัจจุบันว่า 64 ล้านคน มีอัตราการบริโภคข้าวโดยเฉลี่ยประมาณ 110 กก./คน/ปี ปริมาณการบริโภคข้าวสำหรับตลาดในประเทศประมาณ 10 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งแม้จะมีการแข่งขันที่สูงแต่ก็มีมูลค่าตลาดที่มหาศาล นอกจากนี้ จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจของการเปิดตลาด B2C คือ การสานต่อและขยายธุรกิจ เพราะแม้เราจะมีข้าวตราสามงูที่แข็งแรงระดับหนึ่งในตลาดค้าส่งหรือตลาด B2B แต่ผู้บริโภคคนสุดท้ายกลับไม่ค่อยรู้จักเรา ทำให้เราตัดสินใจที่จะสร้างตราสินค้าใหม่ขึ้นมาสำหรับการเริ่มต้นในตลาด B2C รวมถึงเรามีความพร้อมที่จะนำเอาข้าวคุณภาพคัดพิเศษ มาตรฐานส่งออกต่างประเทศมาให้คนไทยได้รับประทาน จึงตัดสินใจเปิดตัวข้าวแบรนด์ “ธรรม” นี้ออกมา อีกทั้งเรายังมั่นใจว่าข้าวหอมเชียงรายของเรานี้ มีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่น และคุณภาพดีสำหรับผู้บริโภค เพราะเรามีความผูกพันและดูแลเกษตรผู้ผลิตข้าวของเรามาอย่างดีโดยตลอดทำให้เราได้ข้าวที่มีคุณภาพ แม้ว่าภาวะทางการตลาดมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง”
“ธรรม” เป็นคำที่มีความหมายสูงส่ง เป็นคำที่ทำให้นึกถึงสิ่งที่ดีๆ คุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม รวมไปถึงการที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มั่งคั่งด้วยวัฒนธรรม อันยาวนานมาแต่สมัยโบราณโบราณและหนึ่งในวัฒนธรรมที่สำคัญและอยู่ควบคู่กับคนไทยมาโดยตลอดคือ วัฒนธรรมในการบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก อาหารหลักที่ว่านี้ก็ได้มาจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และในขณะเดียวกันคนไทยได้ถูกหล่อหลอมให้เป็นคนดีด้วยหลักของพุทธศาสนาที่มีธรรมะเป็นที่พึ่งในดวงใจของคนไทยที่ได้เกิดบนพื้นแผ่นดินธรรม ข้าวธรรมจึงนับเป็นวัฒนธรรมแห่งคุณค่า ของการให้ความอุดมสมบูรณ์และสิ่งล้ำค่าจากธรรมชาติ ที่เรามอบให้ทุกๆ คน
ข้าวแบรนด์ “ธรรม” ไม่ได้มุ่งเน้นด้านการขายข้าวในแง่ของ Commodity เพราะเรามีแบรนด์ที่ชัดเจน และเป็นข้าวที่มีคุณภาพคัดพิเศษเกรดส่งออกต่างประเทศ มี positioning หรือจุดยืนของแบรนด์ที่ชัดเจน และมี Brand personality หรือบุคลิกของแบรนด์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นในท้องตลาด ผลิตภัณฑ์ของ “ธรรม” จึงมีเอกลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมแห่งคุณค่า แห่งความอุดมสมบูรณ์และความสุขของการบริโภคข้าวล้านนาคุณภาพคัดพิเศษ
ผลิตภัณฑ์ข้าวแบรนด์ “ธรรม” สำหรับการบริโภคปัจจุบันมี 9 SKUs อาทิ ข้าวหอมมะลิเชียงราย คุณภาพคัดพิเศษ 100%, ข้าวกล้องหอมมะลิเชียงรายคุณภาพคัดพิเศษ 100%, ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเชียงราย คุณภาพคัดพิเศษ, ข้าวทับทิมล้านนา คุณภาพคัดพิเศษ, ข้าวเหนียวนิลเชียงราย คุณภาพคัดพิเศษ เป็นต้น และกลุ่ม Gift Set ที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่ต้องการนำกลับไปเป็นของฝากจากแหล่งผลิต อาทิ ข้าวหอมมะลิขนาด 500 กรัมบรรจุในกล่องหรือในถุง ที่สะดวกต่อการพกพา และผลิตภัณฑ์เด่นที่สร้างความสะดวกสบายให้กับกลุ่มผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่งคือ ข้าวถุงขนาด 100 และ 200 กรัม สำหรับใส่บาตร หรือทำสังฆทาน เพราะในปัจจุบันยังไม่มีการแบ่งบรรจุภัณฑ์ให้มีขนาดเล็กเท่านี้ และจากจุดนี้ “ธรรม” เองก็ต้องการสร้างวัฒนธรรมการให้ ให้คงอยู่คู่กับสังคมไทยด้วยการเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่ได้ริเริ่มในการดึงผู้คนเข้าหาวัฒนธรรมดีๆ ของไทยในการทำบุญ ใส่บาตร รวมถึงเราการทำบรรจุภัณฑ์ที่ดี พร้อมด้วยขั้นตอนการผลิตที่ถูกหลักอนามัย ทำให้ข้าวสารเหล่านี้ สามารถเก็บไว้ได้โดยคุณภาพของข้าวยังคงเดิม
“ในปี 2554 นี้ “ธรรม” เน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ด้วยการเน้นย้ำนวัตธรรมการให้ และความเป็นตัวตนของแบรนด์ “ธรรม” ให้เป็นวัฒนธรรมแห่งคุณค่า ซึ่งเราคงไม่ได้ใช้งบด้านการโฆษณาอย่างมหาศาล เพราะเราไม่ได้เป็นแบรนด์ใหญ่ในตลาด แต่เราต้องการให้แบรนด์เติบโตแบบ Small & Beautiful ในช่องว่างทางการตลาดที่เปิดกว้าง โดยมีงบประมาณทางการตลาดอยู่ที่ 40 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 200 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ข้าวธรรม 80 % และ Gift Set 20% โดยจะติดตามยอดขายอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน” นายพงศ์อธิป กล่าวเสริม
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น จะเป็นช่องทางค้าปลีกคือซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ โฮมเฟรชมาร์ท (The Mall ทุกสาขา) Gourmet Market (พาราก้อน, เอ็มโพเรี่ยม, K-Village) Jusco และ Max Value Supermarket, วิลล่ามาร์เก็ต, UFM Fuji Supermarket, Tops Market, Central Food Hall และในส่วนของ Modern Wholesales, ซุปเปอร์สโตร์, ร้านค้าส่ง, มินิมาร์ท และร้านค้าทั่วไป ในต่างจังหวัด ได้มอบให้ทางบริษัท ซีพีคอนซูเมอร์โพรดักส์ เป็นผู้จัดจำหน่ายและกระจายสินค้าให้ทั่วประเทศ
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
คุณกณิศอันน์ มโนพิโมกษ์ [email protected] โทร. 02-631-2290-5 ต่อ 318
คุณพจนีย์ บุญเจริญสุข [email protected] โทร. 02-631-2290-5 ต่อ 309
คุณแก้วอลงกรณ์ งอกคำ [email protected] โทร. 02-631-2290-5 ต่อ 309
โทรสาร: 02-631-2290-3