นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “เยาวชนต้นคิด ต่อต้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา” ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปาณี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) พ.ต.อ.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผกก.3 บก.ปอศ.) และนายสมบูรณ์ เฉยเจริญ ผู้อำนวยการสำนักป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมเป็นเกียรติในพิธีแถลงข่าว ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) เพื่อรณรงค์ ส่งเสริม กระตุ้นเตือน และปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนรู้จักหวงแหนในสิทธิของตน เคารพสิทธิของผู้อื่น ไม่ซื้อ ไม่ขายและไม่ใช้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนตกเป็นเครื่องมือของขบวนการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการประกอบอาชีพสุจริต สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการไปเผยแพร่แก่บุคคลรอบข้างและสังคมอย่างถูกต้อง เหมาะสม
รองปลัดฯ นินนาท กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จัดโครงการ “เยาวชนต้นคิด ต่อต้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา” โดยคัดเลือกนักเรียนระดับ ม.1 — ม.3 จากโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 9 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนปทุมวนาราม โรงเรียนชุมชนหมู่บ้านพัฒนา โรงเรียนรุ่งเรืองอุปถัมภ์ โรงเรียนพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร โรงเรียนวิชูทิศ โรงเรียนมัธยมประชานิเวศ โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ และโรงเรียนมัธยมวัดเศวตฉัตร โรงเรียนละ 250 คน เข้าร่วมโครงการตั้งแต่เดือน ม.ค. — ก.ย. 54 รวม 9 ครั้ง ด้วยการจัดกิจกรรมให้ความรู้ผ่านสื่อวีดีทัศน์ ปลูกฝังความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การประกอบอาชีพสุจริต รวมถึงสร้างทัศนคติที่ดีระหว่างตำรวจกับประชาชนแก่เด็กและเยาวชน และเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้เสนอความคิดเห็น และมุมมองเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป
ทั้งนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทบทวนบัญชีรายชื่อประเทศคู่ค้าที่ไม่ให้การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพภายใต้มาตรการ 301 พิเศษ ประจำปี 2550 เลื่อนสถานะของประเทศไทยจากประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List — WL) เป็นประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (Priority Watch List — PWL) โดยอ้างว่าประเทศไทยไม่ได้ให้การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเพียงพอ ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศไทยที่ไม่ดีในสายตานักลงทุนต่างชาติ
สำหรับโครงการ “เยาวชนต้นคิด ต่อต้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา” ถือเป็นการวางรากฐานให้เด็ก เยาวชน และประชาชนเห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ซื้อ ขาย และใช้สินค้าถูกกฎหมาย เกิดความละอายใจต่อการลอกเลียนแบบ หรือก็อปปี้สินค้าของผู้อื่น ตลอดจนร่วมมือกันป้องกัน ปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การกระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาลดน้อยลง และหมดไปจากสังคมไทย อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจต่อสายตานักลงทุนต่างชาติด้วย