มกุฎราชกุมาร ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเหย็ด อัลทนะห์ยัน และมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ ร่วมมือกันเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับเด็ก

พุธ ๒๖ มกราคม ๒๐๑๑ ๑๖:๕๗
จำนวนเงินรวม 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเพื่อต่อสู้กับโรคที่สามารถป้องกันได้ในอัฟกานิสถานและปากีสถาน

มกุฎราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเหย็ด อัลทนะห์ยัน และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมกับ บิล เกตส์ ประธานร่วมแห่งมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ ประกาศวันนี้ว่าทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการร่วมกันเพื่อจัดหาวัคซีนที่ช่วยรักษาชีวิตให้กับเด็กในประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถาน โดยความร่วมมือนี้ทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายเงินทุนฝ่ายละ 50 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ รวมทั้งสิ้นจำนวน 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐไว้สำหรับจัดซื้อและจัดส่งวัคซีนที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือเด็กชาวอัฟกานิสถานและปากีสถาน และเพื่อป้องกันโรคร้ายตลอดชีวิต

“เด็กในประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถานก็เหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป ที่ควรมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดี รวมถึงมีโอกาสได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ บุคคล สังคมชุมชน ประเทศชาติ และทุกประเทศจะได้รับประโยชน์ต่างๆ อันเป็นผลมาจากกลุ่มบุคคลเหล่านี้ที่เติบโตขึ้นมาในอนาคตซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ” มกุฎราชกุมาร ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเหย็ด กล่าว

เด็กๆในประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถานติดเชื้อโรคต่างๆ ได้โดยง่ายโดยเฉพาะโรคที่สามารถป้องกันได้ เช่น โปลิโอ โรคปอดบวม ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ยากที่จะเข้าถึงเด็กเหล่านั้นได้ ปัญหาดังกล่าวรวมถึงความขัดแย้งในภูมิภาค การให้บริการด้านสุขภาพและการได้รับวัคซีนที่ไม่เท่าเทียมกันในแต่ละจังหวัดของประเทศทั้งสอง ในกรณีของปากีสถาน การฟื้นฟูเป็นไปได้ทีละเล็กทีละน้อยอันเนื่องมาจากผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมา

“วัคซีนจะมีส่วนช่วยป้องกันเด็กๆจากโรคต่างๆ ที่คุกคามชีวิตในวัยเด็ก โดยถือเป็นหนทางที่ดีที่สุดเพื่อให้เด็กๆ มีสุขภาพที่ดีเพื่อเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของพวกเขา” บิล เกตส์กล่าว “ความร่วมมือครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีครั้งสำคัญในด้านความร่วมมือระหว่างชุมชนต่างๆ ทั่วโลกเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีขึ้น อนาคตที่มั่นคงยิ่งขึ้นให้กับเด็กๆ ครอบครัว และชุมชนของพวกเขาในประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถาน”

หนึ่งในสี่คนของเด็กในประเทศอัฟกานิสถานต้องเสียชีวิตลงโดยที่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดเพื่อฉลองวันเกิดครบห้าขวบของพวกเขาได้ ทำให้อัตราการตายของเด็กทารกและเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีในประเทศอัฟกานิสถานมีจำนวนสูงที่สุดในโลก

สองในสามของจำนวนเงินกองทุนทั้งหมดจะมอบให้แก่องค์กร กาวี อัลลายแอนซ์ สำหรับการจัดซื้อและส่งมอบวัคซีนรวมห้าชนิด และสำหรับการแนะนำการใช้วัคซีนใหม่คือวัคซีนนิวโมคอคคัสในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งวัคซีนเหล่านี้สามารถปกป้องกันเด็กๆ จากโรคที่มักคร่าชีวิตเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีได้ รวมถึงโรคปอดบวม โรคคอตีบ โรคไอกรน โรคบาดทะยัก โรคตับอักเสบบี และโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากชนิด B (HiB) ซึ่งก่อให้เกิดอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

จำนวนเงินที่เหลือจากเงินกองทุนอีก 34 ล้านดอลล่าร์จะมอบให้กับองค์การอนามัยโลก และองค์กรยูนิเซฟ เพื่อจัดส่งวัคซีนโปลิโอไปให้แก่ประเทศอัฟกานิสถาน แม้ว่าโรคโปลิโอจะมีอัตราลดลงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แต่สำหรับชาวอัฟกานิสถานและปากีสถานยังคงเป็นสองในสี่ประเทศที่การแพร่ระบาดของโรคโปลิโอยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนี้ ได้เกิดวงจรการติดเชื้อใหม่ของโรคนี้อีกครั้งท่ามกลางประชากรของทั้งสองประเทศนี้

ทางองค์กรจะสรุปผลในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่สามารถทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ 6 โรคให้แก่เด็กจำนวนประมาณ 5 ล้านคนในประเทศอัฟกานิสถาน และช่วยให้เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกและองค์กรยูนิเซฟจัดส่งวัคซีนโปลิโอชนิดหยอดให้แก่เด็กประมาณ 35 ล้านคนในประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถาน

สำหรับรูปภาพประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับงานของมูลนิธิ กรุณาเยี่ยมชมได้ที่

http://www.gatesfoundation.org/press-room/Pages/news-market.aspx

มูลนิธิ บิล และเมลินดา เกตส์

จากความเชื่อที่ว่ามนุษย์ทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน ทำให้มูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ได้รับการสถาปนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพที่ดีและชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับในประเทศที่กำลังพัฒนานั้น ทางมูลนิธิมุ่งเน้นเรื่องของการพัฒนาสุขภาพของประชากรและช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากความหิวโหยและความยากจน สำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกา ทางมูลนิธิพยายามที่จะเข้าถึงประชากรที่ขาดโอกาสและขาดแคลน ให้มีโอกาศได้รับการศึกษาและการใช้ชีวิตที่ดีอย่างเต็มที่ มูลนิธิฯ มีตั้งอยู่ ณ เมืองซีแอตเติ้ล และรัฐวอชิงตัน ดำเนินงานโดยผู้บริหารสูงสุด นายเจฟพ์ รายเคส และนาย วิลเลี่ยม เอช. เกตส์ ซีเนียร์ ผู้บริหารร่วม ภายใต้การควบคุมงานของนายบิลและนางเมลินดา เกตส์ และนายวอร์เรน บัพเฟตต์ ดูเพิ่มเติมได้ที่

http://www.gatesfoundation.org หรือเข้าร่วมสนทนาได้ที่ Facebook http://www.facebook.com/billmelindagatesfoundation ) และ Twitter ( http://twitter.com/gatesfoundation )

การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถาน

อัฟกานิสถาน

ในปี 2009 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง ความรุนแรง ความยากจนที่เพิ่มมากขึ้น ปัญหาความด้อยพัฒนาอย่างต่อเนื่องและภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ แผ่นดินไหวและน้ำท่วม ส่งผลให้ประเทศอัฟกานิสถานเกิดภาวะขาดแคลนอาหารที่จำเป็นอย่างรุนแรง จากการประเมินความเสี่ยงและข้อบกพร่องในระดับชาติเมื่อปี 2007-2008 นั้น พบว่า ประชากรจำนวน 7.4 ล้านคน ซึ่งถือเป็นหนึ่งส่วนสามของจำนวนประชากรทั้งหมด ไม่ได้รับอาหารอย่างเพียงพอเพื่อการมีชีวิตอยู่อย่างมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงได้

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนมากกว่า 1.26 พันล้านดีแรห์ม (343.4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ)ในการช่วยเหลือให้แก่ประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี 2009 โดยคิดเป็นร้อยละ 14 ของจำนวนเงินรวมทั้งหมดที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ต่างประเทศในปีนั้น แม้ว่าจำนวนผู้บริจาคของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังคงมีอยู่ในประเทศอัฟกานิสถาน แต่เกือบร้อยละ 73 ของเงินช่วยเหลือ (918.3 ล้านดีแรห์ม) อยู่ในรูปของเงินทุนที่ดำเนินการโดยกองทุนอาบู ดาบีเพื่อการพัฒนา ซึ่งเงินส่วนมากนั้น (863.2 ล้านดีแรห์ม) ถูกนำไปใช้จ่ายในการก่อสร้าง และส่วนที่เหลือนำไปใช้จ่ายเกี่ยวกับการคมนาคมและจัดเก็บไว้ เงินจำนวน 26.8 ล้านดีแรห์มใช้ไปกับระบบโครงสร้างพื้นฐานและการบริการทางสังคม

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังคงให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่สำคัญในประเทศอัฟกานิสถานต่อไป โดยดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2003 ผ่านองค์กรต่างๆ เช่น องค์การพระจันทร์เสี้ยว สำหรับเงินบริจาคจำนวนมากจากประชาชนในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอาสาสมัครได้นำไปช่วยเหลือการก่อสร้างดังต่อไปนี้

- โรงเรียน 11 แห่งที่สามารถรองรับนักเรียนได้ 300 คนต่อวัน

- คลินิคทางการแพทย์ 6 แห่งซึ่งรักษาคนไข้ชาวอัฟกานิสถานได้จำนวน 35,000 ราย

- มหาวิทยาลัยซาเหย็ดประเทศอัฟกานิสถาน มีนักศึกษาจำนวน 6,400 คนต่อปี

- โรงพยาบาลหลักที่รองรับคนไข้ได้จำนวน 7,000 คนต่อปี

- มัสยิด 38 แห่งโดยแต่ละแห่งรองรับพิธีสวดมากกว่า 300 คน

- ห้องสมุดสาธารณะทั่วไปที่รองรับนักเรียนและผู้เยี่ยมชมทั่วไปมากกว่า 400 คนต่อวัน

- ที่พักอาศัยในเมืองซาเย็ดสำหรับครอบครัวผู้ไร้ที่อยู่จำนวน 200 ครอบครัว

- บ่อน้ำดื่มสะอาด 160 แห่ง

ปากีสถาน

เมื่อปี 2009 ประชาชนเกือบ 2 ล้านคนต้องอพยพหนีออกจากหมู่บ้านสวอท ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเขตวาซิริสถาน และพื้นที่ในจังหวัดอื่นๆ ในเขตชายแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศปากีสถาน อันเนื่องมาจากการปะทะกันระหว่างกองทัพปากีสถานและกลุ่มตาลีบัน นอกจากนี้ ประชากร 20 ล้านคนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยจากเหตุอุทกภัยที่เขตปัญจาบ ทางตะวันออกฉียงเหนือของประเทศปากีสถาน

ความต้องการของประชากรชาวปากีสถานมีมากเกินความสามารถในการรับมือของรัฐบาลปากีสถาน จึงทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต้องดำเนินการอย่างหนึ่งเพื่อให้การช่วยเหลือ โดยรวมแล้วประเทศปากีสถานได้รับเงินช่วยเหลือบริจาคเป็นจำนวน 1.60 พันล้านจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ กองทัพของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังได้ส่งเครื่องบินชีนุก จำนวน 3 ลำเพื่อให้การช่วยเหลือและดำเนินการเข้าถึงพื้นที่ที่ห่างไกลในประเทศปากีสถานซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม

รัฐบาลยังได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 998.5 ล้านดีแรห์ม ให้แก่กองทุนอาบู ดาบีเพื่อการพัฒนา เพื่อตอบสนองต่อโครงการที่รัฐบาลของประเทศปากีสถานนำเสนอขึ้นมา และจากความช่วยเหลือดังกล่าว ทำให้จำนวนเงินมากกว่าครึ่งถูกนำไปใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงการด้านสุขภาพ และจำนวนหนึ่งในสามนั้นถูกนำไปช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม และอีกส่วนนำไปใช้จ่ายเกี่ยกับการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน การก่อสร้างใหม่ และการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับภัยต่างๆ

มูลนิธิคาลิฟะห์ได้สนับสนุนเงินจำนวนหนึ่งเพื่อความต้องการเร่งด่วนของผู้อพยพ อีกทั้งยังช่วยเหลือเงินเป็นจำนวนมากกว่า 55.1 ล้านดีแรห์มให้แก่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) โดยเงินก้อนดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงระหว่างปีดังกล่าว

ต่อมา รัฐบาลได้สนับสนุนเงินจำนวน 590.6 ล้านดีแรห์มในช่วงระหว่างปีนั้น ซึ่งมากกว่าสองในสามส่วนของโครงการสุขอนามัยโดยตรง นอกจากนี้ องค์กรพระจันทร์เสี้ยวแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังได้ร่วมสนับสนุนเงินจำนวนกว่า 20.5 ล้านดีแรห์มอีกด้วย

แหล่งข้อมูล มูลนิธิ บิลและเมลินดา เกตส์

ติดต่อ: มูลนิธิบิล และเมลินดา เกตส์ [email protected]

โทร. +1-206-709-3400; [email protected], โทร. +971-50-8181-627

AsiaNet 43015

-- เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ