วี-คูล ย้ำ ชิงที่หนึ่งตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในเมืองไทย

ศุกร์ ๒๘ มกราคม ๒๐๑๑ ๑๑:๒๓
วี-คูล คอร์ปอเรชั่น เชื่อมั่นตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะเติบโตสูงถึง 37% ในปีนี้มาเป็น 750,000 คัน อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และยังเชื่อมันว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีมากของ วี-คูล ในประเทศไทย

นายกนต์ธร จตุรภัทรพนิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี-คูล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่ายอดจำหน่ายรถยนต์เมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึง 45.8% ในขณะที่ยอดขายของฟิล์มกรองแสงรถยนต์ วี-คูล มีอัตราเติบโตมากถึง 50% ซึ่งยอดขายในปี 2554 ทางบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่ายอดขายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ วี-คูล จะมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราที่สูงกว่าการเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย

นายกนต์ธรกล่าวว่าด้วยความร่วมมืออย่างดีจากบริษัท วี-คูล อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท วี-คูล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ยี่ห้อ วี-คูล ได้ประกาศแผนการตลาดสำหรับปีนี้ โดยได้กำหนดแผนดำเนินการสร้างแบรนด์วี-คูลให้เป็นฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในตลาดทั้งในส่วนของยอดขายและส่วนแบ่งการตลาด โดยได้กำหนดแผนปฏิบัติการ “One World” ดังนี้

CustomerCare:

การให้ความรู้และประสบการณ์เชิงลึกในแบรนด์วี-คูลแก่ลูกค้า

นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

PartnerCare

การรุกตลาดโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทยเพื่อให้ตัวแทนจำหน่ายวี-คูลสามารถเพิ่มยอดขายได้เท่าตัว

EnviroCare

การสร้างจิตสำนึกด้านการบริหารสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการบริหารธุรกิจ

นายกนต์ธรกล่าวว่าตนจะนำเสนอขอบเขตของแผนปฏิบัติการ “One World” นี้ในที่ประชุมตัวแทนจำหน่ายโดยมุ่งไปที่การสร้างจิตสำนึกด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมร่วมกับตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตรคู่ค้าเช่นบริษัทรถยนต์ เป็นต้น โดยมีเป้าหมายอย่างชัดเจนที่ วี-คูล จะดำเนินการร่วมกับตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตรคู่ค้า ตลอดจนลูกค้า ในลักษณะ “One Voice, One Form” ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อม

ทางด้าน มร. ทอมมี่ เยียว ผู้จัดการภูมิภาค บริษัท วี-คูล อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยเพิ่มเติมว่าภายใต้นวัตกรรมและเทคโนโลยีของ วี-คูล นั้น ได้มีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยตรง ทั้งนี้รถยนต์ที่ใช้ฟิล์มกรองแสง วี-คูล จะสามารถลดการใช้น้ำมันได้ 3% จากการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นของคอมเพรสเซอร์แอร์รถยนต์ ซึ่งหมายถึงรถยนต์คันดังกล่าวจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 132 กิโลกรัมต่อปี อีกทั้งประสิทธิภาพของการขับจะดีขึ้นอีก 25% เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ใช้ฟิล์มกรองแสงทั่วไป

“ผมอยากบอกว่าเจ้าของรถในประเทศไทยที่ใช้ฟิล์มวี-คูลนั้น มีส่วนในการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ภายใต้เทคโนโลยีขั้นสูงของ วี-คูล” มร.เยียวกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๐๘ พฤกษา โฮลดิ้ง เปิดเกมรุก! ส่ง Plantnery by IHC บุกธุรกิจรับสร้างบ้าน อุดช่องว่างตลาดด้วย บ้านคุณภาพ-นวัตกรรมที่อยู่อาศัย-บริการครบวงจร
๑๑:๓๓ INET จับมือ AWS พลิกโฉมบริการทางการแพทย์ พัฒนา Application Telemedicine สั่งจ่ายยาอัตโนมัติ ผ่านตู้ Advance
๑๑:๒๗ โฮมโปร จับมือ มาซูม่า เปิดตัว เครื่องทำน้ำอุ่นรักษ์โลกจากพลาสติกหมุนเวียน
๑๑:๕๐ สัมผัสความสุนทรีย์แห่งศาสตร์และศิลป์สู่การเดินทางอันน่าอัศจรรย์ของฤดูใบไม้ผลิ กับ Spring Guestronomic Journey ณ ห้องอาหารเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล
๑๑:๐๐ โรยัล เอ็นฟีลด์ บิดทะลุ 1 ล้านคัน ยอดขายประจำปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์
๑๐:๕๒ ก.ล.ต. ออกเกณฑ์กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thailand ESG Extra Fund) มีผลใช้บังคับ 16 เมษายนนี้
๑๐:๐๑ วช. จับมือ สอศ. ดันสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษา พลิกโฉมการศึกษาไทย ด้วยกิจกรรม TVET Smart Idea2Innovation
๑๐:๐๙ The Active Thai PBS เปิดพื้นที่ออกแบบนโยบายลดความสูญเสียจากอุบัติเหตถนนเขตเมืองสู่ข้อเสนอกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นรับมือปัญหาอย่างตรงจุด
๑๐:๔๗ โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ ชวนฉลองวันอาทิตย์อีสเตอร์ ด้วยบรันช์แสนอร่อยและกิจกรรมล่าไข่สุดสนุก
๑๐:๒๔ ถึงเวลาเที่ยวงานสงกรานต์ สาดความสุข ให้สุขสันต์กันทั้งครอบครัว It's time for the Joy of Songkran 2025 ที่ ดุสิตธานี