“ผมรู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับการเติบโตในอนาคตของบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์สเป็นผู้นำหลักในกลุ่มห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์และเราเชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งและรักษาตำแหน่งไว้ได้” นายอาลก กล่าว “ครอบครัวและตัวผมให้คำมั่นว่า เราจะยังคงสนับสนุนอินโดรามา เวนเจอร์สในแผนการเติบโต ซึ่งเรามั่นใจว่าจะเป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้นทุกคน”
“นอกเหนือจากนี้ผมมีความยินดีที่ได้รับการยืนยันจากทางธนาคารกรุงเทพฯและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักที่จะร่วมใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ และพวกเขาก็ยังคงเน้นย้ำว่าจะให้การสนับสนุนการเติบโตของเราต่อไป”
“จากการเข้าร่วมของอินโดรามา รีซอสเซส, ธนาคารกรุงเทพและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก IVL จะสามารถเพิ่มทุนได้เพียงพอที่จะเดินหน้าแผนการเติบโตของเรา ธุรกิจของเราจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายอาลก กล่าว ในกรณีที่มีส่วนของการไม่ใช้สิทธิ์เหลืออยู่ บริษัทอาจพิจารณายกเลิกส่วนที่ไม่มีการใช้สิทธิ์นั้น
ก่อนหน้านี้อินโดรามา เวนเจอร์สได้ประกาศแผนการเติบโตหรือ “Aspiration 2014” ตามแผนปี 2553 บริษัทจะเติบโตด้วยการเข้าซื้อกิจการและการลงทุนในโรงงานใหม่ (Greenfield Investments) ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อโรงงานในสหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก, อินโดนีเซีย, โปแลนด์ และจีน โดยการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดได้ถูกประกาศตั้งแต่ปีที่แล้วและได้มีเงินทุนรองรับโครงการต่างๆเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว และในปี 2554-2557 จะใช้เงินในการลงทุนจาก 3 แหล่ง ซึ่งก็คือจากเงินทุนใหม่, กระแสเงินสดจากการดำเนินงานและจากการกู้ยืมเพื่อจะลงทุนใหญ่ใน PTA และ PET ในอินเดีย, ตะวันออกกลางและการเข้าซื้อกิจการใหม่ๆ บริษัทคาดว่าจะลงทุนประมาณ 3,800 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อที่จะรองรับแผนการเติบโตในครั้งนี้