นายอิสสระ กล่าวต่อว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากลุ่มเป้าหมาย โดยมีสายด่วนศูนย์ประชาบดี ๑๓๐๐ เป็นช่องทางการสื่อสารหนึ่ง ในการเฝ้าระวังปัญหาทางสังคมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการ รวมทั้งสตรีตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ต้องให้ความสำคัญในการช่วยเหลือคุ้มครองและฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตในครอบครัวและสังคมได้ตามปกติ และจำเป็นที่บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ จะต้องมีความรู้ ความละเอียดอ่อน และความชำนาญเฉพาะด้าน เช่น ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจขณะตั้งครรภ์ พัฒนาการของเด็กในครรภ์ การดูแลตนเองและบุตรขณะตั้งครรภ์และหลังคลอด เป็นต้น จึงได้จัดให้มีโครงการพัฒนาบุคลากรศูนย์ประชาบดีฯ ขึ้น เพื่อให้บริการได้อย่างสอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของผู้รับบริการ โดยการจัดบรรยายให้ความรู้และฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับทักษะและเทคนิคในการให้คำปรึกษากับผู้ที่ประสบปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อม เช่น การสร้างค่านิยมที่ถูกต้อง การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ประเด็น Gender การปลูกฝังให้เห็นความสำคัญของค่านิยมไทยและสถาบันครอบครัว การให้ความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษา การคุมกำเนิด ทักษะเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ รวมทั้งการประสานส่งต่อเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ให้แก่หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา นักพัฒนาสังคม และผู้ปฏิบัติงานศูนย์ประชาบดี ๑๓๐๐ รวม ๒๔๐ คน ระหว่างวันที่ ๒-๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ นี้ ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์
“การจัดอบรมแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนี้ จะจัดให้มีทุกๆ ๓ เดือน และทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทักษะ ความรู้ที่จำเป็น โดยเฉพาะปัญหาท้องไม่พร้อมในวัยเยาว์ ซึ่งเป็นปัญหาสังคมที่ต้องแก้ปัญหาอย่างบูรณาการร่วมกัน” นายอิสสระ กล่าว.