นายสมบัติ กล่าวว่า ตนได้หารือกับภาคเอกชนในการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ที่เน้นความเป็นไทย (Thainess) ในประเทศจีน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนจีนได้รู้จีกและเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยได้ร่วมกับโครงการ Thai Food Meet World บริษัท Momo Taro และบริษัท ไอยรา เซ็นเตอร์ จำกัด ที่จะนำผู้ประกอบการด้านอาหารของไทยไปสร้างชื่อเสียงในตลากโลก ในเรื่องนี้ ปลัดท่องเที่ยวเห็นว่า ประเทศจีนเป็นตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่และมีความสำคัญกับประเทศไทย การที่ภาคธุรกิจเอกชนได้เสนอโครงการ “Thai Food Meet World” ขึ้นมาในครั้งนี้ ถือว่าเป็นความคิดที่ดี และสอดคล้องกับนโยบายของทางรัฐบาล นโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งปัจจุบันได้มีการบูรณาการร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศที่จะส่งเสริมความเป็นอัตลักษณ์ไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ในเรื่องนี้ กระทรวงจะให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ กับภาคเอกชน ในการจัดทำโครงการ Reality game show ในรายการโทรทัศน์ชั้นนำของประเทศจีน คือ Sichuan TV (SCTV) ที่เมืองเฉินตู (Chengdu) ซึ่งทางยูเนสโกประกาศให้เป็น City of Gastronomy และทางการจีนก็ได้ ยกเมืองเฉินตูเป็นหัวเมืองทางด้านอาหารของจีนอีกด้วย ซึ่งรายการทีวีดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการเผยแพร่ชื่อเสียงและวัฒนธรรมของประเทศไทยในระดับนานาชาติ อีกทั้งจะเป็นการดึงดูดให้ชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวทิ้งท้ายว่า ถือเป็นการดีที่ภาคเอกชนสนใจที่จะนำวัฒนธรรมไทย รวมถึงอาหารไทย ออกไปเผยแพร่ให้กับชาวต่างชาติได้รู้จักมากขึ้น อีกทั้งรูปแบบรายการที่จัดขึ้นนั้นเป็นแบบ Reality TV ซึ่งถือว่าในปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมืองเฉิงตูที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหัวเมืองทางด้านการอาหารของประเทศจีน ซึ่งจากข้อมูลในเบื้องต้น เฉพาะเมืองเฉิงตูมีผู้ให้ความสนใจ กว่าหมื่นคน เข้าร่วมรับฟังการบรรยายเกี่ยวกับอาหารไทย ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และกระชับความสัมพันธ์ ไทย —จีน ให้แน่นแฟ้นมากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย