นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลาหลายปี ที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างรุนแรงบ่อยครั้งมากขึ้น ทุกประเทศจึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้ประชาชนตระหนักถึงสภาพปัญหา และเข้ามามีส่วนร่วมเป็นเครือข่ายด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำหรับในส่วนของประเทศไทย ซึ่งมี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ ได้รับ การสนับสนุนทางวิชาการจากรัฐบาลญี่ปุ่นในการส่งเสริมศักยภาพด้านการจัดการภัยพิบัติแก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน โดยดำเนิน โครงการพัฒนาศักยภาพในการจัดการภัยพิบัติของประเทศไทย” ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการจัดการ ความเสี่ยงต่อภัยพิบัติในอนาคต ตั้งแต่ระดับชาติ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับชุมชน แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ระยะเวลา 2 ปี พ.ศ. 2549 - 2551 ขณะนี้เป็นการดำเนินการในระยะที่ 2 ระยะเวลา 4 ปี พ.ศ. 2553 — 2557 ในพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง ลำพูน และนครศรีธรรมราช โดยมีเป้าหมายเพื่อดำเนินกิจกรรมลดภัยพิบัติและยกระดับมาตรฐานการจัดการภัยพิบัติของไทย
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้เกิดมาตรฐานการจัดการภัยพิบัติร่วมกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) จึงได้จัดสัมมนาจัดการแผ่นดินไหวและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพในการจัดการภัยพิบัติของประเทศไทยระยะที่ 2 ในวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 ณ โรงแรมอมารี เอเทรียม เพื่อพัฒนาศักยภาพให้เจ้าหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความรู้และทักษะ ในการจัดการภัยพิบัติด้านแผ่นดินไหวและภัยธรรมชาติด้านอื่นๆ ซึ่งการจัดสัมมนาดังกล่าว ประกอบด้วยกิจกรรม ดังนี้ การรายงานผลการดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการฯ การบรรยาย ใน 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ เรื่องความเข้าใจและความจำเป็นในการจัดการภัยพิบัติธรรมชาติ โดย ดร.นากามูระ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวจากประเทศญี่ปุ่น เรื่องการประเมินโอกาสการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย โดย ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย เรื่องมาตรการลดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว โดย ดร.เมกูโร่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ ปภ. ได้ตั้งเป้าที่จะขยายผลการดำเนินโครงการให้ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาค ของประเทศในอนาคต เพื่อพัฒนาเพิ่มศักยภาพในการจัดการภัยพิบัติ โดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติต่างๆ ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงและบ่อยครั้งมากขึ้น