นายยิโระ วาตะบิขิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวว่า “กูลิโกะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความแปลกใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยกูลิโกะมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์บิสกิต มีสัดส่วนการขาย 70% กลุ่มช็อกโกแลตมีสัดส่วนการขาย 25% และกลุ่มสแน็คมีสัดส่วนการขาย 5% ซึ่งตั้งเป้าส่วนแบ่งในตลาดของ “กูลิโกะ ฟรุตเทีย” ภายในปี 2014 ประมาณ 7% จากตลาด PBF (Product Breath Freshener) และวางแผนที่จะสร้างให้ กูลิโกะ ฟรุตเทีย เป็นเม็ดอมรสผลไม้ที่เหมาะกับกลุ่มสาวออฟฟิศ กับความสดชื่นจากรสชาติเปรี้ยวอมหวานของผลไม้ และมีภาพลักษณ์ที่ทันสมัย เหมาะกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้
เนื่องจากการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของรูปแบบการใช้ชีวิตคนเมืองในกรุงเทพฯ และจำนวนกลุ่มสาวสมัยใหม่ที่ทำงานในออฟฟิศมีเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด มีความสนใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนในกลุ่มนี้ โดยบริษัทเล็งเห็นถึงช่องว่างในตลาดเม็ดอมซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่นักแต่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กอปรกับการที่รสชาติส่วนใหญ่ของเม็ดอมประเภทนี้ ยังถูกจำกัดอยู่เพียงแค่รสเมนทอลเท่านั้น ไทยกูลิโกะซึ่งเล็งเห็นถึงจุดร่วมนี้ จึงได้ทำการศึกษา ค้นคว้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนออกมาเป็นเม็ดอม “กูลิโกะ ฟรุตเทีย” เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กลุ่มผู้บริโภค ได้รับความเย็นสดชื่นจากรสชาติเปรี้ยวอมหวานของผลไม้ในรูปแบบของเม็ดอม ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญในเรื่องของรสชาติเท่านั้น ไทยกูลิโกะยังใส่ใจในเรื่องภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ จึงได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความน่ารัก มีขนาดเล็ก กะทัดรัด ซึ่งช่วยให้กลุ่มสาวออฟฟิศสมัยใหม่สามารถพกติดตัวไว้ได้ตลอดเวลา ไม่รู้สึกติดขัดเมื่อต้องเลือกซื้อ “กูลิโกะ ฟรุตเทีย” สำหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์นั้น บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ใช้การโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสื่อที่เหมาะสมในการนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ และสามารถสร้างเรื่องราวให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงความเกี่ยวข้องระหว่างผลิตภัณฑ์กับตนเอง เพื่อกระตุ้นความสนใจในกลุ่มสาวออฟฟิศสมัยใหม่ และสร้างความน่าจดจำด้วยคำภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ ที่ติดหูอย่าง “ซึ-คิ-ริ” ซึ่งมีความหมายว่า “สดชื่น” อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรม Road Show in Office Building และ Free Sampling Troop บริเวณย่านธุรกิจ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ทดลองชิมสินค้า และเกิดความรู้จักกับตัวผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น โดยใช้งบประมาณในการสร้างแบรนด์ ทำการตลาด โฆษณา และประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท”
นายฮิโระโนะบุ ฮาราดะ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มงานการตลาด บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวเสริมว่า “แคมเปญ ฟรุตเทีย หอมสดชื่นสไตล์ฟรุต ฟรุต เป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กูลิโกะ ฟรุตเทีย” และสื่อสารให้ผู้บริโภคได้รับทราบถึงการเข้าสู่ตลาดใหม่ที่ไทยกูลิโกะ ไม่เคยเข้าร่วมมาก่อน ซึ่งก็คือตลาดเม็ดอม โดยทำการตลาด โฆษณาและประชาสัมพันธ์ทั้งในส่วนของ Above-the-line และ Below-the-line ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2011 เพื่อสื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมายในเรื่องของตัวผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างจากสินค้าอื่นๆ ในตลาด เป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการทดลองชิม และตัดสินใจเลือกซื้อ “กูลิโกะ ฟรุตเทีย” โดยมีให้เลือกสดชื่นกับความอร่อยใหม่ถึง 3 รสชาติ ได้แก่ เมลอน รีเฟรชชิ่ง, ลิ้นจี่ รีเฟรชชิ่ง, และ เลมอน รีเฟรชชิ่ง ในราคากล่องละ 20 บาท โดยจับมือร่วมกับ 7-Eleven ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้าสะดวกซื้ออยู่ทั่วประเทศ และมีเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในไทย เพื่อตอบสนองในเรื่องของการหาซื้อสะดวกและง่าย ซึ่งนอกจากกิจกรรมการตลาดเพื่อสนับสนุนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “กูลิโกะ ฟรุตเทีย" ที่ดำเนินภายใต้คอนเซปต์ “กูลิโกะ ฟรุตเทีย หอมสดชื่นสไตล์ฟรุต ฟรุต” ที่กล่าวมาแล้ว บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ยังเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ในโอกาสนี้อีกด้วย”
พบกับ “กูลิโกะ ฟรุตเทีย” เม็ดอมหอมสดชื่นสไตล์ ฟรุต ฟรุต ได้แล้วที่ 7-Eleven ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าทั่วไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : www.montreepr.com
กรวิการ์ บำรุงโลก (กล้วย)
มนตรี รงค์ทอง (ตรี)
อวิรุทธิ์ เลิศดิเรกรัตน์ (แก๊ป)