บลจ.ทิสโก้ฟันธงหุ้นไทยยังแรงได้ต่อ เชื่อดัชนีหุ้นแตะ 1,200 จุด ภายในครึ่งปีแรก

พุธ ๐๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๑ ๑๓:๔๓
บลจ. ทิสโก้ชี้ตลาดหุ้นไทยยังสดใส หลังได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่จะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่จัดการได้ และการไหลกลับเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ มั่นใจดัชนีหุ้นแตะ 1,200 จุดตามเป้าหมายได้ภายในช่วงครึ่งปีแรก ย้ำปัญหาไทย-กัมพูชา หากลากยาวอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่มั่นใจไม่กระทบในระยะยาว

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Senior Vice President, Head of Investment Management — Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเป้าหมายดัชนีสูงสุดในปีนี้คาดว่าจะอยู่ 1,200 จุด ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนในหลายด้าน ประกอบด้วย เศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงเติบโตได้ในระดับที่ดี แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงบ้าง เช่น อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ที่อาจจะสร้างแรงกดดันมากขึ้นเรื่อย ๆ จากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาอาหารก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัญหาดังกล่าวยังอยู่ในวิสัยที่สามารถควบคุมได้ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ในปีนี้จะอยู่ที่ 3%-4% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) จะอยู่ที่ 2%-3%

นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงเดินหน้านโยบายอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาหลายครั้ง การปรับขึ้นดังกล่าวจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในระบบยังคงติดลบอยู่ ซึ่งหากปล่อยให้มีการติดลบนานเกินไปก็จะมีการผลต่อระบบเสถียรภาพทางการเงิน และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อขึ้นมาอีก ดังนั้นนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ยังเป็นขาขึ้นจึงช่วยลดแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อได้

ส่วนปัจจัยบวกอีกประการ คือเรื่องของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกจะช่วยกระตุ้นตลาดได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังใกล้ถึงฤดูการจ่ายปันผล โดยในช่วงกลางเดือนนี้บริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ จะทยอยประกาศผลประกอบการ ซึ่งตัวเลขที่ออกมาถือว่าดีมากก็จะเป็นอีกปัจจัยที่มาสนับสนุนตลาดหุ้นให้คึกคักขึ้นด้วย ส่วนดัชนีหลักทรัพย์ของไทยที่ปรับฐานมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ถือว่าได้ปรับลดลงมาพอสมควร ดังนั้นต่อจากนี้ด้วยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่ยังแข็งแกร่งจะเป็นแรงดึงดูดให้ดัชนีหุ้นไทยสามารถกลับขึ้นมาดีได้อีกครั้ง

ด้านปัจจัยในต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจในแถบยุโรป ซึ่งมีบางประเทศอาจจะถึงขั้นถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง แต่ปัญหาดังกล่าวจะกระทบต่อภาวะตลาดหุ้นไทยเป็นบางครั้งบางคราวและเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ส่วนปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา แม้จะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ด้วยปัญหาที่แท้จริงยังไม่ได้การแก้ปัญหาได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการว่างงาน รวมถึงตัวเลขของหนี้สาธารณะที่ยังอยู่ในระดับสูง และมาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณรอบ 2 (QE2) ที่จะหมดลงในช่วงกลางปี ทำให้ยังมีความกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการ QE3 ออกมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ดังนั้นเชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนจะหันกลับมาลงทุนในภูมิภาคเอเชียที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับที่สูงกว่ามากอีกครั้งซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อดัชนีหุ้นไทยที่เพิ่มเติมเข้ามาตอนนี้ คือเรื่องความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชา ซึ่งยังคงต้องรอดูท่าทีว่าปัญหาดังกล่าวจะลุกลามออกไปอีกแค่ไหน ซึ่งหากปัญหาดังกล่าวยังไม่จบก็อาจจะมีผลกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุนบ้าง แต่เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่ได้ส่งผลกระทบในระยะยาว

“จากปัจจัยโดยรวมทั้งหมด ถือว่าเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดหุ้นไทย ทำให้เราเชื่อว่าดัชนีจะสามารถวิ่งขึ้นไปแตะระดับที่ 1,200 จุด ได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยเป้าหมาย PE ที่เรามองในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 14 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 12 เท่า ซึ่งยังถือว่ายังมี Upside อยู่ประมาณไม่ต่ำกว่า 20% ดังนั้นตลาดหุ้นไทยจึงเป็นอีกแหล่งการลงทุนที่น่าสนใจในขณะนี้” นายสาห์รัช กล่าว

สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดได้ที่

ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์

บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป โทร.02 633 6906

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๑ ก.พ. รฟท. จัดรถไฟส่งผู้ชุมนุมขบวนคนจนเมืองเพื่อสิทธิที่อยู่อาศัย เครือข่ายสลัม 4 ภาค กลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ
๒๑ ก.พ. BCPG เผยผลการดำเนินงานปี 2567 กำไรสุทธิกว่า 1,800 ล้านบาท เติบโต 65% จากปีก่อน พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง
๒๑ ก.พ. เกรท นำทีมศิษย์เก่า ฟอส-แบงค์ ฉลองครบรอบ 40 ปี ม.รังสิต เปิดตัว คริส หอวัง กับบทบาท ครูผู้ฮีลใจนักศึกษา แห่งสถาบัน
๒๑ ก.พ. ธนาคารกรุงเทพ ประกาศจ่ายเงินปันผล หุ้นละ 8.50 บาท สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567
๒๑ ก.พ. GULF เคาะแล้ว! อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้อายุ 4-10 ปี ที่ 3.00 - 3.55% ต่อปี พร้อมเสนอขายประชาชนทั่วไป 27-28 ก.พ. และ 3 มี.ค.68 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 10
๒๑ ก.พ. Selena Gomez, benny blanco, Gracie Abrams ส่งเพลงสนุกๆ โดนใจ Gen-Z Call Me When You Break Up การรวมตัวของอเวนเจอร์วงการเพลงป็อปที่ทุกคนรอคอย!
๒๑ ก.พ. MBK Care อาสาทำดี ปันน้ำใจสู่สังคม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ ปีที่ 7 ส่งมอบความสุขเพื่อผู้พิการทางสายตา พร้อมสิ่งของอุปโภคบริโภค
๒๑ ก.พ. บางจากฯ ปรับโครงสร้างธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวของกลุ่มบริษัทบางจาก
๒๑ ก.พ. สวยทุกลุค ชมพู่ - อารยา ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ของสาว GUESS ในแคมเปญคอลเลกชัน Spring Summer 2025 สีสันแห่งฤดูกาลใหม่
๒๑ ก.พ. วช. เปิดศูนย์การเรียนรู้โดรนเพื่อการเกษตร ต้นแบบการยกระดับประสิทธิภาพภาคการเกษตรของจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ