ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิต “บ. อาร์ ซี แอล” : องค์กรที่ระดับ “BBB+” และหุ้นกู้ไม่มีประกันที่ระดับ “BBB” แนวโน้ม “Negative”

ศุกร์ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๑ ๑๑:๔๗
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” และยืนยันอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากการฟื้นตัวของการค้าโลก รวมถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจผู้ประกอบการขนส่งทางเรือระดับภูมิภาคอันเนื่องมาจากความได้เปรียบในเรื่องขนาดของกองเรือ ความถี่ในการให้บริการ และอายุเฉลี่ยของกองเรือที่ยังต่ำ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงคณะผู้บริหารของบริษัทที่มีความสามารถและประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม จุดเด่นดังกล่าวลดทอนบางส่วนจากธรรมชาติที่ผันผวนและการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจขนส่งทางเรือ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่งฟื้นตัว และอุปทานส่วนเกินของเรือคาดว่าจะยังคงกดดันความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในระยะสั้นและระยะปานกลางด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงผลประกอบการทางการเงินของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นแต่ยังคงอ่อนตัว โดยที่บริษัทจะเผชิญกับความท้าทายในการปรับปรุงผลกำไรจากการดำเนินงานให้ได้ในช่วงที่ความสามารถในการขนส่งสินค้ามีมากขึ้นและราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น แนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับเป็น “Stable” หรือ “คงที่” หากบริษัทประสบความสำเร็จในการปรับปรุงอัตราผลกำไรและสามารถสร้างกระแสเงินสดที่เพียงพอในการชำระคืนหนี้และดูแลมิให้วงเงินสินเชื่อผิดเงื่อนไขเกินกว่าระดับที่กำหนด ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากบริษัทไม่สามารถฟื้นกำไรจากการดำเนินงานจนสถานะสภาพคล่องลดต่ำลง

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทอาร์ ซี แอล เป็นผู้ประกอบการกองเรือสินค้าขนาดเล็กหรือเรือฟีดเดอร์ (Feeder Business) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จากข้อมูลทางสถิติของการท่าเรือสิงคโปร์และตัวแทนท้องถิ่นของบริษัท บริษัทมีส่วนแบ่งสูงที่สุดในตลาดเรือขนส่งสินค้าขนาดเล็กระหว่างท่าเรือย่อยกับเรือเดินสมุทรในเส้นทางสิงคโปร์กับฟิลิปปินส์ กับมาเลเซีย และกับไทย ทั้งนี้ เป็นผลมาจากความถี่ของการให้บริการต่อสัปดาห์และขนาดของกองเรือโดยเฉลี่ยที่มีขนาดใหญ่ซึ่งสามารถขนส่งสินค้าได้เป็นจำนวนมาก บริษัทยังเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการ 30 รายที่มีกองเรือขนาดใหญ่ที่สุด โดย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2553 มีระวางบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ทั้งสิ้น 54,570 ตู้ (Twenty-foot-equivalent Unit -- TEU) ซึ่งเป็นเรือของตนเองจำนวน 34 ลำและเรือเช่าระวาง 9 ลำ ความจุระวางในการบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 2% จากระดับ ณ สิ้นปี 2552 อัตราการใช้ประโยชน์ของกองเรือสำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 ปรับตัวดีขึ้นเป็น 115% จากระดับ 101% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยการเพิ่มขึ้นสะท้อนถึงการฟื้นตัวของความต้องการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์อันเนื่องมาจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก การที่เรือส่วนใหญ่ของบริษัทยังมีอายุน้อยโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 11 ปีทำให้บริษัทได้ประโยชน์ในเรื่องของการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำ นอกจากนี้ การมีกองเรือขนาดใหญ่ยังทำให้ง่ายต่อการจัดตารางเวลาและความถี่ในการให้บริการมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นซึ่งมีกองเรือที่มีขนาดเล็กกว่า อย่างไรก็ตาม การมีเรือในครอบครองจำนวนมากทำให้บริษัทไม่ได้รับประโยชน์จากอัตราค่าเช่าเรือที่อยู่ในระดับต่ำในช่วงปี 2552-2553

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือมีลักษณะเป็นวงจรที่ขึ้นและลงเป็นอย่างมากซึ่งกินเวลารอบละประมาณ 5-6 ปี อุปสงค์ของธุรกิจเดินเรือเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้า โดยที่ภาวะเศรษฐกิจโลกมีผลกระทบต่อธุรกิจกองเรือฟีดเดอร์ (Shipper-owned Container -- SOC) ในขณะที่การค้าภายในภูมิภาคเอเซียเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อธุรกิจเรือบริการขนส่งตู้สินค้าประจำเส้นทาง (Carrier-owned Container -- COC) ผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดในปี 2552 โดยปริมาณการขนส่งของบริษัทลดลง 18% ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่ปริมาณการขนส่งสินค้าของธุรกิจกองเรือฟีดเดอร์ลดลงอย่างมากถึง 27% ในปี 2552 การที่ภาวะเศรษฐกิจในประเทศแถบเอเซียยังคงเข้มแข็งกว่าในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าของธุรกิจเรือ

บริการขนส่งตู้สินค้าประจำเส้นทางลดลงเพียง 9% ในปี 2552 อย่างไรก็ตาม ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 ปริมาณการขนส่งสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของการค้าโลกและภาวะเศรษฐกิจในประเทศแถบเอเซียที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตราค่าระวางของการขนส่งสินค้าทางเรือโดยเฉลี่ยของบริษัทปรับตัวลดลงอย่างมากจาก 201 ดอลลาร์สหรัฐต่อตู้ในปี 2551 เป็น 176 ดอลลาร์สหรัฐต่อตู้ในปี 2552 ก่อนจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 190 ดอลลาร์สหรัฐต่อตู้สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของปริมาณความต้องการขนส่งตู้สินค้าและการจัดการอุปทานส่วนเกินของระวางบรรทุกสินค้าให้เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนไหวและระวางการบรรทุกสินค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 9% ในช่วงปี 2554-2555 จะยังคงเป็นปัจจัยที่มีผลกดดันการขึ้นค่าระวาง

ปริมาณการขนส่งสินค้าและค่าระวางที่ลดลงอย่างมากในปี 2552 ส่งผลให้รายได้ของบริษัทลดลงถึง 27% เมื่อเทียบกับปี 2551 โดยอยู่ที่ระดับ 14,321 ล้านบาท แม้ปริมาณการขนส่งสินค้าและค่าระวางจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 แต่รายได้ของบริษัทกลับเพิ่มขึ้นเพียง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ระดับ 11,588 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้หลังปรับค่าเช่าดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 8.4% จากที่มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานต่อรายได้ที่ระดับ -9.0% ในปี 2552 เนื่องจากต้นทุนที่ลดลงประกอบกับปริมาณการขนส่งสินค้าและค่าระวางที่ปรับตัวสูงขึ้น

อัตราส่วนหนี้สินต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทลดลงจาก 54.6% ในปี 2552 เป็น 49.5% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2553 เนื่องจากบริษัทได้จ่ายชำระเงินกู้ยืมและเพิ่มทุนจำนวน 1,556 ล้านบาทในเดือนมิถุนายน 2553 ในขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย (หลังปรับค่าเช่าดำเนินงาน) เพิ่มขึ้นจาก -2.3 เท่าในปี 2552 เป็น 2.4 เท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 วงเงินสินเชื่อส่วนใหญ่ของบริษัทได้มีการกำหนดเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับผลประกอบการทางการเงินและหนี้สิน แม้ว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้น แต่บริษัทยังคงมีความเสี่ยงจากการที่อัตราส่วนทางการเงินที่เป็นเงื่อนไขในวงเงินสินเชื่อจะเกินกว่าระดับที่กำหนด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทมีประวัติที่ดีจึงคาดว่าจะได้รับการผ่อนปรนจากเจ้าหนี้ ปัจจุบันบริษัทได้รับการผ่อนปรนในการดำรงอัตราส่วนทางการเงินที่เป็นเงื่อนไขในวงเงินสินเชื่อจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 จากเจ้าหนี้ 4 ราย และจนถึง 31 มีนาคม 2554 จากเจ้าหนี้ 2 ราย ทริสเรทติ้งกล่าว

บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) (RCL)

อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB+

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

RCL12OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ BBB

แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative (ลบ)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ