นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กล่าวว่า ทางเครือข่ายสุขภาพเสนอให้บีโอไอพิจารณาสนับสนุนอุตสาหกรรมสุขภาพที่ต้องการการสนับสนุนอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมาโรงพยาบาลเอกชนส่วนมากไม่ได้ประสบปัญหาทางธุรกิจและมีศักยภาพในการลงทุนอยู่แล้ว หากมีการส่งเสริมเรื่องการลงทุนในด้านบริการสุขภาพโดยหน่วยงานภาครัฐอย่างบีโอไอ อาจส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพโดยรวมอย่างมาก เมื่อพิจารณาถึงการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอที่เป็นอยู่ขณะนี้ โดยพิจารณาควบคู่กับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบีโอไอจะพบว่าบีโอไอมีหน้าที่ส่งเสริมการลงทุนตามนโยบายของรัฐ ซึ่งในส่วนของอุตสาหกรรมสุขภาพนั้นมีธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2552 ซึ่งกำหนดอย่างชัดเจนแล้วว่า ไม่มุ่งเน้นให้ระบบสุขภาพมีทิศทางไปสู่ธุรกิจ เมื่อมองถึงวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการลงทุนเพื่อสนับสนุนการจ้างงาน ในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ จะพบว่าเป็นการย้ายงานจากภาครัฐไปสู่ภาคเอกชนเพิ่มขึ้น การส่งเสริมของบีโอไอในส่วนนี้จึงไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างที่สะท้อนว่า ต้องมีการตกลงหลักการ และกรอบแนวทางร่วมเพื่อใช้ในการพิจารณาตัดสินใจส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมสุขภาพที่สอดคล้องงกับธรรมนูญฯ ซึ่งตามกรอบเดิมระบุให้ส่งเสริมกิจการโรงพยาบาลขนาด 50 เตียงขึ้นไป ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ และทางบีโอไอมีมติจะขยายประเภทกิจการในการสนับสนุนเพิ่มขึ้น 5 กิจการคือ 1.กิจการที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล(เกินกว่า 30 เตียง) 2.กิจการเวชศาสตร์ฟื้นฟู 3.ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง 4.ศูนย์บริการเทคโนโลยีทางการแพทย์ 5.กิจการ Logistic เพื่อการรักษาพยาบาล ซึ่งขณะนี้มติดังกล่าวถูกระงับไว้
ในที่สุด ที่ประชุมมีข้อสรุปมอบให้ นักวิชาการจากทั้งสองฝ่าย นำโดย ดร.นพ.ยศ ตีระวัฒนานนท์ ร่วมกันยกร่าง หลักการ และกรอบแนวทางการพิจารณากิจการที่จะส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมสุขภาพที่สอดคล้องกับธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2552 โดยจะกลับมาเสนอให้คณะทำงานร่วมให้ความเห็น ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงและผู้ทรงคุณวุฒิของทั้งสององค์กรอีกครั้ง จากนั้นจะเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานที่ดูแลระบบหลักประกันสุขภาพทั้ง 3 ระบบ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กรมการแพทย์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภาคธุรกิจเอกชน และผู้บริโภค เป็นต้น แล้วจึงนำเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนต่อไป โดยทั้งหมดนี้คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 5 เดือน
ด้าน นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาการลงทุน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า ข้อเสนอจากการประชุมในวันนี้จะนำเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้รับทราบเป็นการเบื้องต้นในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนข้อห่วงกังวลว่ามีสถานประกอบการที่ขอรับการสนับสนุนจากบีโอไอไว้ก่อนหน้านี้แล้วจะดำเนินการอย่างไรนั้น ตรงส่วนนี้ทางบีโอไอก็จะดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน ซึ่งใน 10 ปีที่ผ่านมา มีโรงพยาบาลขอรับการสนับสนุน 18 แห่ง โดยเป็นโรงพยาบาลขนาด 100 เตียงขึ้นไป 6 แห่ง และโรงพยาบาลขนาด 100 เตียงลงมาอีก 12 แห่ง โดยส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลในต่างจังหวัด ดังนั้นการชะลอเรื่องนี้ไปก่อนจะไม่กระทบต่อการลงทุนอย่างแน่นอน
ประสานงาน : สำนักการสื่อสารทางสังคม สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
พลินี เสริมสินสิริ (แตงโม) 02-590-2307
เขมวดี ขนาบแก้ว (ปูน) 02-590-2307
ธนิษฐ์ สุคนธนิกร (ต๊ะ) 02-590-2483