นายสมบัติ กล่าวว่า จากงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับการอนุมัติจำนวน ๑๖,๓๐๙ ล้านบาท และสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับ เป็นจำนวน ๑,๕๔๖,๑๘๖,๑๐๐.๐๐ บาท นั้น ตนต้องการที่จะพัฒนาให้สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นองค์กรอัจฉริยะที่ชี้นำการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้มีการทำงานอย่างมีบูรณาการ มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมีความทุ่มเท มุ่งมั่น ช่วยกันและร่วมกันทำงานเป็นทีม และให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีคุณภาพ รวมถึงให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยพัฒนาสภาพแวดล้อมในกระทรวงฯ ให้มีความทันสมัย โดยนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยระบบ E-office จัดทำระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ จัดให้มีจอ LCD ทั่วพื้นที่โดยรอบกระทรวง พร้อมทั้งจะนำระบบ touch screen เข้ามาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต่อประชาชนที่ผู้เข้ามาใช้บริการของหน่วยงาน ให้เกิดความสะดวกสบาย มีการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมภายในสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สะอาดและสบายตา น่าใช้บริการ อีกทั้งสร้างองค์ประกอบกับคนในองค์กรให้ทำงานอย่างมีความสุข พร้อมทั้งสอดแทรกองค์ความรู้ควบคู่กันไปด้วย โดยจะมีการจัดนิทรรศการบริเวณโถงกลางของกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา เกี่ยวกับองค์ความรู้ด้านต่างๆที่น่าสนใจด้านการท่องเที่ยวและกีฬาทุก ๑๕-๓๐ วัน อีกทั้งอยากให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้ให้ ให้มากขึ้น ในลักษณะการตอบแทนเพื่อสังคม (CSR - Corporate Social Responsibility )
ทั้งนี้ตนต้องการมุ่งเน้นให้สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พัฒนาไปใน 4 ทิศทาง คือ 1.เป็นหน่วยงานของรัฐที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย โดยการการส่งเสริมภาพสักษณ์ที่ดีของประเทศให้ออกไปสู่สายตาชาวต่างชาติ มุ่งเน้นประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เป็นการสร้างรายได้ให้ทั้งกับประเทศชาติ รวมถึงคนในท้องถิ่นที่ประกอบอาชีพ ณ สถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆอีกด้วย 2.สร้างความสุขให้ประชาชน ความสุขในที่นี้หมายถึงความมีสุขภาพจิต สุขภาพกายที่ดี สุขภาพจิตที่ดีทางหนึ่งมาจากการที่ได้ไปท่องเที่ยว ณ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่สวยงามและมีอยู่ภายในประเทศของเรา อีกทางหนึ่งมาจากการความสุขที่มีสุขภาพดีจากการออกกำลังกาย รณรงค์ให้เกิดการเล่นกีฬาในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งสร้างวัฒนธรรมในการชม การเชียร์กีฬาที่ดี 3.สร้างเยาวชนให้ชาติ โดยการส่งเสริม และพัฒนาองค์ความรู้ด้านกีฬาให้แก่เยาวชน เพื่อการเติบโตอย่างมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมกับจิตใจที่รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย 4.สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย โดยการพัฒนาขีดความสามารถในด้านการกีฬา โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬาในทุกๆชนิดกีฬา เพื่อให้นักกีฬาจากประเทศไทย สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการกีฬาระดับเอเชีย จนถึงระดับโลก
ดร.สมบัติ ป.กก. กล่าวปิดท้ายว่า ตนเองจะยกเครื่องบุคลากร การบริหารจัดการ การทำงาน เทคโนโลยี และการประเมินผลติดตามการทำงานของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยอาศัยเทคโนโลยีเป็นเครื่องชี้นำให้เป็นองค์กรอัจฉริยะ มีการเชื่อมต่อข้อมูลเรื่องท่องเที่ยวและกีฬาทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ให้เกิดขึ้นภายใน ๒๓๐ วัน ในช่วงชีวิตราชการที่เหลืออยู่ และมีวอร์รูม (War Room) ด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนกำหนดประชุมติดตามงานจากผู้บริหารของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทุกวันจันทร์สัปดาห์แรกของทุกเดือนนับจากนี้เป็นต้นไป เพื่อให้เกิดผลเชิงปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรมในเร็ววัน อีกทั้งจะจัดจ้างที่ปรึกษาด้านแผนงานและยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวและกีฬาจากต่างประเทศ เพื่อจะช่วยในการวางแผนและยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของชาติไทยในระยะเวลา ๑๐ — ๒๐ ปีข้างหน้า อย่างเป็นระบบ แบบแผน และมีความเป็นสากล โดยเฉพาะงานเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่างประเทศ ในระดับโลกต่อไปด