การปฏิบัติงานครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการสืบสวนสอบสวนขยายผลคดีทลายโกดังผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าที่อยุธยาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยอยู่ภายใต้การดูแลของพ.ต.อ.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง รองผบก.ปทส. โดยมีพ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ บำรุงสวัสดิ์ และพ.ต.ต.กษิเดช จังพนาสิน สารวัตรกอง.2 บก.ปทส. เป็นผู้นำทีมปฏิบัติการนำกำลังเค้าตรวจสอบบ้านพักต้องสงสัยย่านจังหวัดอ่างทองเป็นแหล่งซุกซ่อนตัวเงิน-ตัวทองเพื่อรอการลักลอบส่งออก เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้กระทำผิดรายนี้ประกอบธุรกิจลักลอบค้าสัตว์ป่าอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปีและมีความเชื่อมโยงกับขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่ถูกจับกุมที่อยุธยาเมื่อปีที่แล้วด้วย โดยขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่ากลุ่มนี้มักใช้เส้นทางลักลอบลำเลียงสัตว์ป่าข้ามแม่น้ำโขงผ่านไปยังประเทศลาวเพื่อส่งต่อไปป้อนตลาดผู้บริโภคในประเทศจีน
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535 ซึ่งออกประกาศโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่องห้ามมิให้ผู้ใดค้าและ/หรือมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง ซึ่งผู้กระทำผิดต้องรับโทษจำคุกสูงสุดสี่ปี หรือปรับเป็นเงินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“การปฏิบัติการเข้าจู่โจมทลายโกดังลักลอบค้าสัตว์ป่าแบบนี้เป็นภารกิจที่ไม่ง่ายเลย” นายสตีเว่น กาลสเตอร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิฟรีแลนด์กล่าว “มูลนิธิฟรีแลนด์ขอแสดงความยินดีต่อเจ้าหน้าที่บก.ปทส.ที่สามารถลงมือปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพหลังจากได้รับเบาะแส จนทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษและช่วยเหลือสัตว์ป่านับร้อยตัวให้เป็นอิสระจากการถูกลักลอบค้าได้สำเร็จ”
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกจัดเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายและยังเป็นศูนย์กระจายสัตว์ป่าสู่ตลาดมืดทั่วโลก ซึ่งธุรกิจการลักลอบค้าสัตว์ป่าทั่วโลกนั้นมีมูลค่าสูงถึงหลายพันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ทั้งนี้ ประเทศจีนและเวียดนามเป็นประเทศที่มีตลาดผู้บริโภคสัตว์ป่าที่ใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เต่า ตะพาบ งูและตัวนิ่ม ซึ่งผลกระทบจากการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ส่งผลให้สัตว์ป่าหลายชนิดอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์
สอบถามข้อมูลหรือต้องการรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ มุกด์ มูลนิธิฟรีแลนด์ โทร 02 204 2719 - 21 หรืออีเมล์ [email protected]