กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมทดลองเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายรับรองนมโคสดแท้ 100% และ ดำเนินงานโครงการนำร่องผลิตภัณฑ์แปรรูปไอศกรีมและนมผสมผลไม้ปั่น รองรับการเปิดเสรี FTA ที่ลดอัตราภาษีนำเข้านมผงเหลือ 0% หวังสร้างความเชื่อมั่นเกษตรกรไทย จำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโคสดแท้ 100% อย่างยั่งยืน
กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกแบบเครื่องหมายรับรองผลิตภัณฑ์นมโคสดแท้ 100% เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับคุณค่าของนมพร้อมดื่มที่ทำจากนมโคสดแท้ 100% อีกทั้งวางกลยุทธ์ทางการตลาด จัดโครงการนำร่องผลิตภัณฑ์แปรรูปไอศกรีมซอฟเสิร์ฟ และเครื่องดื่มนมผสมผลไม้ปั่น เพื่อช่วยรองรับการจำหน่ายนมโคสดแท้ 100% ต่อไปในอนาคต เป็นผลจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีที่ส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้านมผงเป็น 0% ในอีก 10 ปีข้างหน้า
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า“การดำเนินงานโครงการฯ ดังกล่าว ภายใต้การสนับสนุนของกองทุน FTA กระทรวงพาณิชย์ มีผลการวิจัยเครื่องหมายโบว์ทอง ได้รับการโหวตว่า เป็นเครื่องหมายที่สามารถสื่อถึงความเป็นนมโคสดแท้ 100% ได้อย่างเด่นชัดที่สุด รวมถึงผู้แทนของชุมนุมสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้เลี้ยงโคนมไทยโฮลสไตน์ฟรีเชียนก็เห็นชอบกับเครื่องหมายนี้ ซึ่งเครื่องหมายรับรองคุณภาพนมโคสดแท้ 100% หรือโบว์ทองนี้ จะช่วยผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์นมโคสดแท้ 100% มากขึ้น”
นอกจากนี้ โครงการวิจัยยังมีแนวทางเพิ่มมูลค่านมโคสดแท้ด้วยการแปรรูปเป็นไอศกรีมและเครื่องดื่มนมผสมผลไม้ปั่น ภายใต้เครื่องหมายการค้า Smile Milk และจัดโครงการนำร่องตามหน่วยงานราชการและสื่อมวลชนทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์ พร้อมทำการประเมินผลทางการตลาด ในด้านรสชาติ และราคาเพื่อหาแนวทางส่งเสริมการตลาดของนมโคสดแท้อย่างยั่งยืนต่อไป โดยเกษตรกรที่ต้องการใช้เครื่องหมายรับรองนี้สามารถยื่นขอจดกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ต่อไปในอนาคต
รศ. นพรัตน์ รุ่งอุทัยศิริ หัวหน้าโครงการวิจัย สถาบันวิจัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงผลการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านมโคสดแท้ให้คุณค่าทางโภชนาการด้านโปรตีน และไขมันสูงกว่า นมผสมจากต่างประเทศ และนมโคสดแท้ที่ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรส์จะให้คุณค่าด้านวิตามิน บี 12 และวิตามิน A สูงกว่านมผสม นอกจากนี้ ผลการศึกษาวิจัยทัศนคติและพฤติกรรมผู้บริโภคโดยวิธี Focus Group พบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการดื่มนมโคสดแท้ 100% มากกว่า และหากมีเครื่องหมายรับรองที่บ่งบอกถึงความแตกต่างว่าผลิตภัณฑ์นั้นใช้นมโคสดแท้ 100% เป็นส่วนประกอบก็จะสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
งานวิจัยดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการศึกษาวิจัยเชิงปฎิบัติการเพื่อการจัดเตรียมปัจจัยพื้นฐานในภารกิจการตลาดอย่างยั่งยืนของนมโคสดแท้ 100% ของประเทศไทย ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุน FTA กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ให้ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินการ
การเปิดเสรีการค้าระหว่างประเทศ (WTO) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี 2538 เป็นผลให้ประเทศต่างๆ ปรับตัว และเจรจาเขตการค้าเสรี หรือ FTA เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยได้ลงนามกรอบความตกลงการค้าเสรีกับประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 และประเทศนิวซีแลนด์ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2548 ซึ่งจะส่งผลให้อัตรานำเข้านมผง ลดลงเป็น 0% ในระยะเวลา 10 ปี ทำให้ผู้ประกอบการมีแนวโน้มจะหันไปใช้นมผงแทนนมสดแท้ 100% เพราะมีราคาที่ถูกกว่านมโคสดแท้ในประเทศ ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยไม่สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมสดแท้ 100% ได้ และปัญหานี้จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโคนมของไทย และเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมในระยะยาว
“กรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกองทุน FTA กระทรวงพาณิชย์ จึงมีหน้าที่ที่จะสนับสนุนเกษตรกรให้สามารถมีช่องทางในการจำหน่ายนมโคสดแท้ 100% และให้ความรู้กับผู้บริโภคว่าคนไทยโชคดีมีโอกาสดื่มนมโคสดแท้ 100% สดจากฟาร์มของคนไทยเอง ซึ่งเป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯที่จะให้คนไทยแข็งแรง มีสุขภาพดี” นายสุรศักดิ์ กล่าวสรุป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-631-22910 Neo Target