“สุพันธุ์ มงคลสุธี” เผยเป็นผลจากการเติบโตของตลาดไอที และการได้เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าที่มีควาหลากหลายมากขึ้น ด้านบอร์ดสั่งปันผลคืนกำไรให้ผู้ถือหุ้นในครึ่งปีหลังอีก 0.15 บ./หุ้น รวมจ่ายทั้งปี 0.25 บ./หุ้น คิดเป็น Yield 6.4% พร้อมมั่นใจปี 54 ยังเติบโตต่อเนื่องหวังปั๊มรายได้ทะลุ 2 หมื่น ลบ.ได้สำเร็จ หรือโต 20% จากปี 53
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิจำนวน 270.674 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.403 บาท เทียบกับกำไรสุทธิจากงวดเดียวกันของปี 2552 จำนวน 202.767 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.303 ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 67.908 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 33.5
สำหรับผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายและบริการรวมของบริษัทฯ ที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 16.18 หรือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 2,172.3 ล้านบาท จากรายได้จากการขายและบริการรวมจำนวน 13,427 ล้านบาท ในปี 2552 มาเป็น 15,599 ล้านบาทในปี 2553 ส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 13,490.12 ล้านนบาทในปีก่อน มาเป็น 15,661.93 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนขายและบริการในปี 2553 อยู่ที่ 14,738 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2552 ที่มีต้นทุนขายและบริการอยู่ที่ 12,685 ล้านบาท ทำให้ในปี 2553 บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 861.51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 16.09 จากปีก่อนที่ทำได้ 742.10 ล้านบาท
"จะเห็นได้ว่ากำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนดังกล่าว มาจากรายได้รวมในปี 2553 ที่ทำได้ทะลุ 15,661.93 ล้านบาท หรือเติบโต 16.10% จากปีก่อนตามเป้าหมายที่วางไว้ ในขณะที่กำไรขั้นต้นในปี 2553 นั้นได้เติบโตขึ้นจากปีก่อนถึง 16.09% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของตลาดไอที และการได้เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้นประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขายและการดำเนินงานในปี 2553 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2552 เป็นจำนวนเงิน 27.83 ล้านบาท หรือ 5.63% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้รวมจากการขายและบริการของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้น 2,172.3 ล้านบาท หรือ 16.18% นอกจากนี้ การที่บริษัทมีต้นทุนทางการเงินลดลงเมื่อเทียบกับปี 2552 อยู่ 4.83 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ12.30 ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทในปี 2553 เพิ่มขึ้นถึง 33.5% ดังกล่าว"
นายสุพันธุ์ กล่าวต่อว่า จากที่ผลกำไรสุทธิเติบโตได้อย่างโดดเด่นดังกล่าว ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2554 เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2554 ที่ผ่านมา คณะกรรมการจึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด ในงวดผลดำเนินงานวันที่ 01 ก.ค. 2553 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2553 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 1บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิปันผล 6 พ.ค. 2554 และปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น 9 พ.ค. 2554 ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 3 พ.ค. 2554 กำหนดจ่าย 20 พ.ค. นี้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผล ระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาทมาแล้ว เป็นจำนวนหุ้น ทั้งหมด 672,744,750 หุ้นรวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 67,274,475 บาท ทำให้ทั้งปี 2553 บริษัทฯ จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท หรือคิดเป็นเงินปันผลตอบแทน (Dividend yield) ที่อัตรา 6.4%
เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2554ว่า มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนได้ โดยได้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปี 2553 ตามทิศทางการเติบโตของตลาดไอที และบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของสินค้าให้จัดจำหน่ายสินค้าที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเพิ่มขึ้น โดยในปีนี้บริษัทฯ มีกลุ่มสินค้าที่จำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 9 กลุ่ม จากเดิม 8 กลุ่มสินค้า โดยกลุ่มสินค้าที่เพิ่มขึ้น คือ สมาร์ทโฟน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดีกว่าสินค้าไอทีทั่วไป ในขณะเดียวกันยังได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นประกอบกับสินค้าไอทีมีราคาที่ถูกลง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าดังกล่าวได้มากขึ้นอีกด้วย จึงสะท้อนให้บริษัทฯ เติบโตไปในทิศทางเดียวกันดังกล่าว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซินเน็คฯ
คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) E-mail : [email protected]