กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--ปตท.
วันนี้ (20 ธันวาคม 2548) บริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน) หรือ Rayong Refinery Public Company Limited (RRC) และสถาบันการเงินในประเทศและต่างประเทศได้ลงนามในสัญญาให้การสนับสนุนวงเงินกู้ระยะยาวและวงเงินกู้เงินทุนหมุนเวียน จำนวนเงินรวมประมาณ 630 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งเป็นวงเงินกู้สกุลเงินบาทจำนวน 13,200 ล้านบาทจากสถาบันการเงินในประเทศประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารออมสิน และธนาคารทหารไทย และวงเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯจำนวน 300 ล้านเหรียญ จากธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ แบงกิ้ง คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งวงเงินกู้ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปชำระคืนเงินกู้เดิมของ RRC และเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจของบริษัท
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกรรมการบริษัท RRC กล่าวว่า การลงนามในสัญญาเงินกู้ในวันนี้เป็นการดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างทางการเงินและนับเป็นความสำเร็จที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของ RRC หลังจากที่ ปตท. ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใน RRC แต่เพียงผู้เดียวเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ของ RRC รวมถึงผลประกอบการและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอันเป็นผลมาจากค่าการกลั่นที่เพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ประกอบกับความต้องใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่สถาบันการเงินมีให้แก่ RRC ซึ่งธนาคารที่ร่วมให้เงินกู้ในครั้งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นธนาคารชั้นนำในประเทศและต่างประเทศ วงเงินกู้ที่ได้ในครั้งนี้จะทำให้ RRC มีความยืดหยุ่นทางการเงินและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทางการเงินได้ดีขึ้นในอนาคต
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า นอกจากนี้แล้ว RRC ยังพิจารณาการกระจายหุ้นให้แก่ประชาชน (IPO) และนำหุ้นของ RRC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะส่งผลให้ RRC มีช่องทางเลือกในการระดมทุนมากขึ้นและมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจและการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต อย่างไรก็ดีหลังจากการกระจายหุ้นให้แก่ประชาชนแล้ว ปตท.จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน RRC ต่อไป
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม รักษาการกรรมการผู้จัดการ RRC กล่าวว่า RRC เป็นโรงกลั่นแบบคอมเพล็กซ์ที่มีกำลังการกลั่น 145,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง และเป็นโรงกลั่นที่มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูงที่สุดโรงหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ทั้งนี้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ได้จากโรงกลั่นส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการภายในประเทศจึงส่งผลให้ RRC มีสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์ในประเทศสูงถึงประมาณร้อยละ 91 ของยอดขายและที่เหลือเป็นการส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศ--จบ--