ฟิทช์ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวก แก่อันดับเครดิตของ PTTAR และคงอันดับเครดิตของ PTTCH

ศุกร์ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๑ ๑๗:๒๔
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเครดิตพินิจ (Rating Watch) แนวโน้มเป็นบวกแก่อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ของ บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่นจำกัด (มหาชน) หรือ PTTAR ซึ่งได้แก่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ที่ ‘A-(tha)’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F2(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิที่ ‘A-(tha)’ ในขณะเดียวกันฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH ที่ ‘A+(tha)’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิที่ ‘A+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ การประกาศอันดับเครดิตครั้งนี้ สืบเนื่องจากการประกาศข้อตกลงร่วมกันของ PTTCH และ PTTAR ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 เรื่องการควบรวมกิจการกัน

การประกาศอันดับเครดิตของฟิทช์สะท้อนถึง แผนการควบรวมกิจการระหว่าง PTTCH และ PTTAR ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนหุ้นสามัญระหว่างผู้ถือหุ้นของ PTTCH และ PTTAR โดยไม่มีการซื้อหุ้นหรือการเพิ่มทุนจากทั้งสองบริษัท ทั้งนี้บมจ. ปตท. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของทั้ง PTTCH และ PTTAR น่าจะมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการประมาณร้อยละ 49 ซึ่งใกล้เคียงกันกับสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัททั้งสองก่อนการควบรวมกิจการ

การควบรวมกิจการจะทำให้บริษัทมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีขึ้นจากความหลากหลายของสินค้าและวัตถุดิบที่มากขึ้น มีขนาดการดำเนินธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงมีสถานะทางการตลาดที่ดีขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทมากยิ่งขึ้น ฟิทช์คาดว่าประโยชน์ที่เกิดขึ้นทันทีจากการควบรวมกิจการคือการแลกเปลี่ยนสินค้าและผลิตภัณฑ์พลอยได้ (by product) ระหว่างกัน ในขณะที่บริษัทสามารถจะได้รับประโยชน์จากการวางแผนการผลิตทั้งระบบร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในกระบวนการผลิตอีกด้วย แม้ว่าการควบรวมกิจการจะทำให้อัตราส่วนทางการเงินต่างๆที่ใช้ในการพิจารณาอันดับเครดิตอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับอัตราส่วนดังกล่าวของ PTTCH ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวน่าจะดีขึ้นในช่วงปี 2554 — 2555 เนื่องจากแผนการลงทุนที่อยู่ในระดับปานกลางและการคาดการณ์ว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตใหม่ และแนวโน้มที่ดีขึ้นของทั้งธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจการกลั่นน้ำมัน

บริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการนี้จะเข้าสวมสิทธิและรับภาระในสินทรัพย์ หนี้สิน ภาระผูกพันต่างๆ ทั้งหมดของทั้ง PTTCH และ PTTAR โดยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (adjusted net debt to EBITDAR) ณ สิ้นปี 2553 ของบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมที่คำนวณไว้เบื้องต้น จะอยู่ที่ระดับ 3.2 เท่า (PTTCH 1.8 เท่า และ PTTAR 4.7 เท่า) ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิดังกล่าวของบริษัทใหม่นี้จะลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 2.0 เท่า ภายในปี 2554 และต่ำกว่า 1.5 เท่า ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป หากการควบรวมกิจการดำเนินไปตามแผนที่วางไว้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจและแผนการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ฟิทช์คาดว่าจะจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทใหม่นี้ที่ระดับ ‘A+(tha)’ ทั้งนี้อันดับเครดิตสุดท้ายของบริษัทใหม่ขึ้นอยู่กับผลสรุปของกระบวนการอนุมัติต่างๆ ต้นทุนที่เกี่ยวข้องในการควบรวมกิจการ และการเปลี่ยนแปลงของการคาดการณ์ต่างๆ ทั้งในด้านผลประกอบการและแผนการลงทุนในอนาคต

เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวกของ PTTAR สะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจและการเงินที่คาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการ ในขณะเดียวกันการคงอันดับเครดิตของ PTTCH สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าอัตราส่วนทางการเงินต่างๆที่ใช้ในการพิจารณาอันดับเครดิตของบริษัทที่อาจจะอ่อนแอลงนั้น จะถูกชดเชยโดยสถานะในการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการ รวมถึงอัตราส่วนทางการเงินดังกล่าวของบริษัทใหม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2554 — 2555

การควบรวมกิจการในครั้งนี้ ยังต้องขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น และจากเจ้าหนี้ต่างๆ ของทั้งสองบริษัท ฟิทช์คาดว่าอันดับเครดิตของ PTTAR จะได้รับการพิจารณาออกจากเครดิตพินิจเมื่อการควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ จากนั้นอันดับเครดิตของ PTTCH และ PTTAR จะถูกเพิกถอน ในขณะที่บริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมจะได้รับการจัดอันดับเครดิตใหม่แทนต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO