ปัจจุบันโรคมะเร็งช่องปากถือเป็นโรคของช่องปากที่ร้ายแรงที่สุด มักพบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ในระยะท้ายแล้วมีโอกาสเสียชีวิตได้สูงถึงร้อยละ 45 โรคมะเร็งช่องปากจัดอยู่ในกลุ่มมะเร็งที่ศรีษะและลำคอ (Head and neck cancer) ปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งช่องปากและมะเร็งคอหอยในระยะต้นจะใช้วิธีผ่าตัดร่วมกับการฉายรังสี แม้จะได้ผลดีในระยะแรก แต่ผู้ป่วยมักประสบปัญหาความพิการของอวัยวะบดเคี้ยวตามมา และผลข้างเคียงจากการฉายรังสีก็มักทำให้เกิดแผลในปาก ประสาทการรับรสเปลี่ยนไป ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายน้อยลงและเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี รับประทานอาหารไม่ได้ เกิดภาวะทุพโภชนาการ จากสถิติกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปีพ.ศ.2552 มีผู้ป่วยโรคมะเร็งริมฝีปาก ช่องปากและคอหอย มารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศเป็นจำนวนมากเป็นอันดับ 5 ของผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั้งหมด และมีจำนวนวันนอนเฉลี่ยในโรงพยาบาลนานกว่าโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ สาเหตุที่ผู้ป่วยมะเร็งช่องปากและคอหอยต้องนอนโรงพยาบาลนาน นอกจากการผ่าตัดรักษาแลพักฟื้นแล้ว การรรับประทานอาหารเองไม่ได้และต้องพึ่งพาการให้อาหารทางสายยาง (tube feeding) ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญ ดังนั้นการพัฒนาหาผลิตภัณฑ์อาหารที่ผู้ป่วยมะเร็งสามารถรับประทานได้ทางปาก กลืนง่ายให้พลังงาน จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดูแลผู้ป่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรในด้านทันตสาธารณสุข จึงร่วมกับคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และบริษัทอำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด ร่วมกันสร้างกลไกและแนวทางการทำงานร่วมกัน โดยมีทันตแพทย์หญิง ดร.อุบลวรรณ หลำอุบล และทันตแพทย์หญิง ดร.ดุลยพร ตราชูธรรม ผู้ได้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดลแผนกทันตแพทยศาสตร์ประจำปี พศ.2544 และ 2545 ตามลำดับ เป็นผู้จัดการโครงการ ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 36 เดือน โดยมุ่งดำเนินการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ได้ “นวัตกรรมอาหารเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก”
ศาสตราจารย์พิเศษ ทันตแพทย์หญิง ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ประธานกรรมการมูลนิธิทันตนวัตกรรม กล่าวว่า “มูลนิธิเห็นความสำคัญและตระหนักว่างานทันตสุขภาพเป็นปัจจัยพื้นฐานเบื้องต้นของการมีสุขภาพที่ดี และการศึกษาวิจัยพัฒนาด้านทันตกรรมโดยใช้กระบวนการวิจัยประยุกต์ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้การบริการป้องกันรักษามีคุณภาพยิ่งขึ้นสามารถตอบสนองต่อสภาวการณ์ของโรค จึงริเริ่มดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปากขึ้น”
ทางด้านการผลิตมูลนิธิทันตนวัตกรรม ได้คัดเลือกบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอาหาร และการบรรจุภัณฑ์มารับช่วงต่อในการผลิตอาหาร โดยได้คัดเลือกบริษัทอำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด ผู้นำนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ กะทิชาวเกาะ น้ำแกงพร้อมปรุงตรารอยไทย น้ำนมข้าวกล้องวี-ฟิท กะทิธัญพืช ซอสปรุงรสลดโซเดียมและน้ำตาลตรากู๊ฟไรฟ์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านการผลิตผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร ที่ได้รับมาตรฐานสากลในระบบคุณภาพและระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทั้ง ISO 22000, ISO 9001:2000, HACCP, GMP, มอก.18001, ISO 1400, มรท. อีกทั้งยังเป็นโรงงานที่ผลิตในระบบปิด ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิตขั้นแรกจนถึงขั้นสุดท้าย มีการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมตลอดมา จึงได้รับคัดเลือกเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารเพื่อผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก
นายเกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อำพลฟูดส์โพรเซสซิ่ง กล่าวว่าอาหารเพื่อผู้ป่วยมะเร็งช่องปากดังกล่าวนั้นอยู่ในรูปของเจลอ่อน ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยสามรถตักรับประทานและกลืนได้ง่าย ไม่ทำให้เกิดการสำลัก ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยกระบวนการ UHT บรรจุลงกล่อมกระดาษปลอดเชื้อ สามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้ถึง 18 เดือน คุณภาพมาตรฐานสากลเช่นเดียวกับมาตรฐานที่ใช้ในการผลิตสินค้าของทางบริษัทฯ โดยในส่วนของสารอาหารนั้น 1 กล่องผลิตภัณฑ์ จะได้รับทั้งโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานถึง 250-260 KCAL ในส่วนของรสชาติในขณะนี้มี 2 รสชาติ คือรสมะม่วง และนม อีกทั้งจะพัฒนารสชาติอื่นๆตามมา
ทันตแพทย์หญิง ดร.ดุลยพร ตราชูธรรม ผู้จัดการโครงการ กล่าวเสริม “อาหารดังกล่าว ยังช่วยแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition) แก่ผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก คอหอย และไทรอยด์ที่ได้รับการฉายรังสี ตลอดจนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีปัญหาการกลืน ให้สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติโดยไม่ต้องรับประทานอาหารทางสายยาง (Tube Feeding) กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง เนื่องจากการรักษาโรคมะเร็งช่องปากในปัจจุบันจะใช้วิธีการผ่าตัดร่วมกับการฉายรังสี แม้จะได้ผลดีในระยะแรกแต่ผู้ป่วยมักประสบปัญหาความพิการของอวัยวะบดเคี้ยวตามมา และผลข้างเคียงจากการฉายรังสีก็มักทำให้เกิดแผลในช่องปาก ประสาทการรับรสเปลี่ยนไป เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายน้อยลง เกิดอาการปากแห้ง และเป็นโรคแผลในช่องปาก สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ผู้ป่วยขาดคุณภาพชีวิตที่ดี”
“ในส่วนของการทูลเกล้าฯ ถวายอาหารเพื่อผู้ป่วยมะเร็งช่องปากแก่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวนั้น ทางคณะทำงานจะนำทูลเกล้าฯ ถวายในช่วงปลายปีเพื่อทรงมอบแก่ผู้ป่วยมะเร็งช่องปากผู้ยากไร้ต่อไป” ทันตแพทย์หญิง ดร.ดุลยพร ตราชูธรรม กล่าว
?
แผนกประชาสัมพันธ์
บริษัท อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด
โทร 0-2622-3434 ต่อ 2301
โทรสาร 0-2226-1829
E-mail : [email protected]
website : www.ampolfood.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2622-3434 Pr@Ampolfood