รวบแก๊งค์ลักลอบขนงาช้างป้อนเศรษฐีเมืองกรุง

จันทร์ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๑ ๑๗:๓๘
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) แถลงยึดงาช้าง 1 คู่ มูลค่ากว่าครึ่งล้าน ซุกซ่อนอยู่ภายในช่องลับในรถทัวร์เส้นทางหาดใหญ่-กรุงเทพฯ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชาวจีน

การปฏิบัติการครั้งนี้นำโดย พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูลสิทธิ์ ผกก.5 บก.ปทส. หลังจากได้รับเบาะแสว่าจะมีผู้ลักลอบขนงาช้างมากับรถทัวร์สายดังกล่าว จึงได้จัดกำลังเพื่อทำการตรวจสอบ จนเมื่อเวลาประมาณ 23.30น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554 พบรถต้องสงสัยคันดังกล่าว ณ จุดจอดรถขนส่งประจำทางจ.ชุมพร จึงได้เข้าแสดงตัวพร้อมขอตรวจค้น พบงาช้าง 1 คู่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 ซม. ยาว 1.50 เมตร อยู่ในถุงกระสอบซุกซ่อนไว้ในช่องลับบริเวณที่เก็บของข้างรถดังกล่าว จากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยอ้างว่างาช้างคู่นี้เป็นของตนซึ่งกำลังขนเพื่อนำไปเก็บที่ที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ ไม่ได้มีเจตนาในการนำไปขาย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูใบอนุญาตครอบครองผู้ต้องสงสัยก็ไม่สามารถแสดงเอกสารใดๆได้

“การทำงานของตำรวจเพื่อการบังคับใช้กฎหมายด้านสัตว์ป่ายังจะมีการขยายผลอีกในลำดับต่อไป สำหรับคดีนี้ผู้ต้องสงสัยถูกตั้งข้อหาฐานกระทำความผิดภายใต้พรบ.ศุลกากรด้วยเพราะทางเรามีหลักฐานว่างาช้างคู่นี้ถูกลักลอบนำข้ามมาจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือว่าเป็นคดีของแก๊งค์ลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติที่ทางเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญในการปราบปราม” พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูลสิทธิ์กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยทั้งสองถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต มีความผิดต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 4 ปีและ/หรือปรับสูงสุดสี่หมื่นบาท อีกทั้งยังถือเป็นการกระทำความผิดตามพรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27ทวิ ฐานร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามหรือข้อจำกัด มีความผิดต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 5 ปีและ/หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว

ในตลาดมืด งาช้างจะมีราคาอยู่ที่ประมาณคู่ละ 100,000 — 1 ล้านบาทและมักถูกขายต่อให้แก่นักธุรกิจที่มีฐานะร่ำรวย

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่บก.ปทส. สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยลักลอบขนงาช้างแกะสลักจากประเทศไทยไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนั้นเป็นผลความสำเร็จจากการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างบก.ปทส.และหน่วยงาน United States Fish and Wildlife Service โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิฟรีแลนด์ ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยฐานลักลอบค้างาช้างแอฟริกันได้เพิ่มเติมอีก 2 รายที่จังหวัดนครสวรรค์เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา

สอบถามข้อมูลหรือต้องการรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ มุกด์ มูลนิธิฟรีแลนด์ โทร 02 204 2719 - 21 หรืออีเมล์ [email protected]

มูลนิธิฟรีแลนด์ เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนระดับสากลจัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์และสัตว์ป่าให้หมดไปจากโลกใบนี้ องค์กรของเรามีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯโดยมีพื้นที่ทำงานครอบคลุมทวีปเอเชียและพื้นที่อื่นๆทั่วโลก โครงการของเราออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อต่อต้านอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร ตั้งแต่ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ปราบปรามผ่านการจัดการฝึกอบรมและให้ข้อมูล สนับสนุนชุมชนท้องถื่นโดยการแนะนำอาชีพทางเลือกให้กับชาวบ้านเพื่อให้มีรายได้สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืน รวมไปถึงริรเมโครงการรณรงค์สร้างจิตสำนึกและการให้ความรู้แก่เยาวชนในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลนิธิฟรีแลนด์ www.freeland.org

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ