นายชุมพล กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบในส่วนของการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ(ร่าง)แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕ — ๒๕๕๙ และได้มอบหมายให้กระทรวงหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้แนวทางในการจัดทำแผนงานด้านการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕ — ๒๕๕๙ ตามที่ประธานคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเสนอ โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับฟังความเห็น ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของหน่วยงานอื่นๆในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย นอกจากนี้ยังจะมีการเสนอแผนการจัดทำและกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว ต่อคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (๑ มี.ค. ๕๔) โดยจากเดิมที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดทำโครงการและกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อศึกษาหลักเกณฑ์ วิธีการ กระบวนการในการกำหนดพื้นที่ โครงสร้างการบริหารในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยมีพื้นที่ดำเนินการแบ่งเป็น ๑๔ คลัสเตอร์ นั้น ได้ปรับเปลี่ยนและกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยวขึ้นใหม่ โดยลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มความชัดเจน ของกระบวนการในการกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยวให้เหลือเพียง ๘ คลัสเตอร์ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะมีการเสนอแผนปฏิบัติการพัฒนาแหล่ง/กลุ่มท่องเที่ยวที่มีศักยภาพของประเทศไทย(Thailand Tourism Cluster-TTC.) โดยจะช่วยให้เกิดความชัดเจนในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ความเห็นชอบ จำนวน ๘ กลุ่ม/เขตการท่องเที่ยว โดยแบ่งเป็น ๑.กลุ่มอารยธรรมล้านนา ๒.กลุ่มท่องเที่ยวมรดกโลก ๓.กลุ่มท่องเที่ยวอารยธรรมอีสาน ๔.กลุ่มท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขง ๕.กลุ่มท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มน้ำภาคกลาง ๖.กลุ่มท่องเที่ยวActive Beach ๗.กลุ่มท่องเที่ยวRoyal Coast ๘.กลุ่มท่องเที่ยวมหัศจรรย์สองสมุทร ภายใต้งบประมาณการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยภาพรวมกว่า ๗,๐๐๐ — ๘,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อจะร่วมกันบูรณาการทุกภาคส่วน ให้ดำเนินงานตามแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ และสอดรับกับแผนปฏิบัติการพัฒนา ฟื้นฟู ยก ระดับแหล่งท่องเที่ยว ให้มีเกิดศักยภาพสูงสุด ตามความโดดเด่นของพื้นที่ท่องเที่ยวของประเทศไทย และสร้างสรรค์รายได้ให้กับชุมชน ท้องถิ่น ประชาชน และประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน และเพื่อให้เป็นการมุ่งให้เกิดความสัมฤทธิ์ผลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงได้กำหนดการจัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๕ — ๒๕๕๙ จึงมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำแผนปฏิบัติการภายใต้แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ
โดยมี ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานอนุกรรมการ และอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นรองประธานคณะอนุกรรมการ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ โดยตนมีแนวความคิดว่าจะเพิ่ม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตลอดจนหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ให้เข้าร่วมในคณะอนุกรรมการชุดนี้ด้วย ซึ่งในคณะอนุกรรมการชุดนี้จะมีอำนาจหน้าที่ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล กำหนดแผนงานขั้นตอนในการดำเนินการเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการภายใต้แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ อีกทั้งจะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนข้อมูลและเสนอแผนงานโครงการและให้ข้อเสนอแนะเพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รายงานผลการจัดทำแผนปฏิบัติการตามแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ให้ทางคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติได้รับทราบต่อไป