PYLON สุดยอด อวดกำไรปี 53 พุ่งกว่า 51% - แจกปันผล 0.08 บ. ส่งซิกโชว์ผลงาน Q1/54 โตต่อ พร้อมโดดชิงเค้กรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน

อังคาร ๐๑ มีนาคม ๒๐๑๑ ๑๖:๒๘
บดินทร์ แสงอารยะกุล” ปลื้ม PYLON โชว์ผลงานปี 53 สดใส หลังกวาดกำไรโต 51.66% จาก 21.33ลบ.ปี 52 เป็น 32.35 ลบ.ปี53 ระบุธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานรากเติบโตโดดเด่นในปีนี้ หลังมีงานก่อสร้างโครงการใหม่ทั้งรัฐและเอกชนเพียบ คาดผลงาน Q1/54 ดีกว่า Q4/53 หลัง Backlog ล้นมือ พร้อมส่งสัญญาณประมูลงานใหม่อีก 800 ลบ. โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน หวังรักษาสัดส่วนรับงานภาครัฐและเอกชนที่50 : 50ในสิ้นปี

นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานรากชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยผลประกอบการปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 626.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33ล้านบาท หรือร้อยละ 5.56จากงวดผลประกอบการปี 2552 ที่บริษัทฯ มีรายได้รวม 593.52 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 2553 อยู่ที่ 32.35 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.16 บาท เพิ่มขึ้น 11.02 ล้านบาท หรือร้อยละ 51.66จากงวดปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 21.33 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่ทำให้ผลประกอบการเติบโตเพิ่มขึ้น เป็นผลจากรายได้ในการรับงานรวมวัสดุเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณงานก่อสร้างในตลาดขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจ

จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่นดังกล่าว ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่1/2554 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2553 ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท กำหนดจ่ายในวันที่ 18 พฤษภาคม 2554

เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ยังมีทิศทางการเติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากงานก่อสร้างโครงการใหม่ๆ ทั้งจากภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็กต่างๆ โดยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2554 ของบริษัทฯ น่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าไตรมาส 4 ปี 2553 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นไตรมาสที่มีกำไรดีที่สุดของปี 2553 โดยมีกำไรเท่ากับ 25.02 ล้านบาท เนื่องจากมีโอกาสรับงานก่อสร้างใหม่ๆ หลายโครงการ รวมถึงทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) อย่างต่อเนื่อง โดยทั้งปีนี้ บริษัทฯ วางเป้ารายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานก่อสร้างโครงการใหม่ อีกมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท โดยจากประสบการณ์ทำงาน และสถิติในการรับงานรับเหมาก่อสร้างที่ผ่านมา จึงคาดว่าจะได้รับงานในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าโครงการทั้งหมด โดยในสิ้นปีนี้บริษัทฯ จะพยายามรักษาการรับงานภาครัฐ ในสัดส่วนร้อยละ 50 และภาคเอกชนสัดส่วนร้อยละ50 จากปัจจุบันรับงานภาคเอกชนสัดส่วนร้อยละ 60 และภาครัฐสัดส่วนร้อยละ 40 หลังจากมีงานภาครัฐเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 2 ปี 2554 ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในอนาคต

อนึ่ง ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้รับงานก่อสร้างใหม่จำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 130.20 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีงานในมือเพิ่มขึ้นเป็น 900-1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้าตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2554 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 2 ปี 2554 ซึ่งประกอบด้วย 1.โครงการ SPRC Clean Fuels 2.โครงการ ลุมพินี พาร์ค ริเวอร์ไซด์ — พระราม3 3.โครงการ TH Project Samsung Electro Mechanics 4.โครงการ The Trust Residence Pinklao 5.โครงการจุฬานิวาส 6.โครงการ The Leaf Condominium 7.โครงการ VOQUE Sukhumvit 31 8.โครงการ Urbano Absolute 9.โครงการ Centric Ratchada-Suthisarn 10.โครงการ VIA 31 Condominium และ 11.โครงการ VIA 49 Condominium

ข้อมูลบริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานฐานรากงาน แบ่งออกเป็น 3 สายงานหลัก ดังนี้ คือ

1. งานเสาเข็มเจาะ (Bored Pile) เสาเข็มเจาะเป็นเสาเข็มที่นิยมใช้กับการก่อสร้างฐานรากของโครงสร้างขนาดใหญ่ และโครงสร้างอาคารในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด นอกจากนี้เสาเข็มเจาะยังลดมลภาวะเรื่องเสียงและแรงสั่นสะเทือนเมื่อเทียบกับการใช้เสาเข็มตอกการก่อสร้างเสาเข็มเจาะนั้นสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ จากขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 50 เซนติเมตร จนถึงมากกว่า 1 เมตรขึ้นไป และทำได้ถึงความลึกมากกว่า 60 เมตร ขึ้น อยู่กับการออกแบบกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็มโดยวิศวกร และสภาพชั้นดินในแต่ละพื้นที่

2. งานปรับปรุงคุณภาพดิน (Ground Improvement) มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับโครงสร้างของดินเดิม ทำให้ดินมีกำลังรับน้ำหนักมากขึ้นและป้องกันการเคลื่อนตัวของดิน โดยบริษัทมีการให้บริการงานประเภทนี้โดยวิธีการอัดฉีดซีเมนต์ด้วยแรงดันสูง (Jet Grouting) ที่ความดันประมาณ 200 ถึง 400 บาร์ และ 3.งานก่อสร้างกำแพงกันดินชนิดไดอะแฟรม (Diaphragm Wall) กำแพงกันดินชนิดไดอะแฟรมเป็นการก่อสร้างกำแพงโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นโครงสร้างรับน้ำหนักและป้องกันการเคลื่อนตัวของดินทางด้านข้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เพื่อเป็นโครงสร้างของชั้นจอดรถใต้ดิน กำแพงอาคารผู้โดยสารสำหรับระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน และอุโมงค์ลอดทางแยก เป็นต้น

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) Tel.02-5549395

E-mail : [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ