สำหรับคณะกรรมการบริษัท สินเชื่อไปรษณีย์ไทย ประกอบด้วยตัวแทนจากไปรษณีย์ไทย กระทรวงการคลัง และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ในสัดส่วนที่เท่ากัน โดยในวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2554 รมว.คลัง (กรณ์ จาติกวณิช) มอบนโยบายในการดำเนินงานให้กับคณะกรรมการ สปณ. ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการวางแผนการดำเนินงานร่วมกัน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญในแต่สาขาจะได้มีโอกาสร่วมกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงานให้โครงการดังกล่าวนี้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายและบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป
สำหรับโครงการนี้ นอกจากช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยได้มีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินโดยที่ไม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาธุรกิจของ ปณท ในด้านการเงินการธนาคาร ซึ่งเป็นไปในลักษณะเดียวกับการไปรษณีย์ทั่วโลก ที่จะให้บริการใน 3 ธุรกิจหลัก คือไปรษณีย์ ธนาคาร และการประกันภัย อีกทั้ง ยังช่วยพัฒนาระบบบริการทางการเงินในระดับฐานรากให้มีความหลากหลายและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้ใช้บริการผ่านเครือข่ายของภาครัฐ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ทั่วถึงและตรงกับความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงบริการสินเชื่อในระดับฐานราก ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการกู้ยืมเงินนอกระบบ ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนมากขึ้นอันจะนำไปสู่การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่สังคมไทยทุกระดับ
อนึ่ง หากผู้กู้ที่มีวินัยทางการเงิน เมื่อชำระหนี้ครบตามกำหนด อาจมีการพิจารณาลดหย่อนอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไปหรือเพิ่มวงเงินกู้มากขึ้นในปีถัด ๆ ไป และบางส่วนนำไปสมทบเงินออมในกองทุนการออมแห่งชาติของผู้กู้ เพื่อสร้างความมั่นคงและหลักประกันในชีวิตให้กับผู้กู้ อีกทั้งการมีวินัยของผู้กู้จะสามารถช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนสถาบันการเงินอื่นๆ หรือธนาคารของรัฐได้ต่อไปในอนาคต