นายพุทธชาติ รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TWZ ผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์การสื่อสาร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2554 ไว้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียง กับปี 2553 โดยรายได้รวมของปี 2553 อยู่ที่ประมาณ 3.8 พันล้านบาท ทั้งนี้ รายได้ดังกล่าวคาดว่าจะเป็นรายได้จากยอดขายในต่างประเทศผ่านบริษัทย่อย TWZ International Limited (Hong Kong) ประมาณ 200 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีลูกค้าในต่างประเทศมากกว่า 3 ประเทศ และคาดว่าจะขยายเป็น 10 ประเทศภายในปี 2554 และพร้อมผลิต OEM ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเพิ่มเติม
“ในปี 2553 ยอดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท มียอดขายประมาณ 1.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ประมาณ 3 แสนเครื่อง ส่วนแนวโน้มปีนี้ที่คาดว่าจะมียอดการจัดจำหน่ายใกล้เคียงกับปี 2553 แม้ว่ายังมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับ 3G และการรุกตลาดของอินเตอร์แบรนด์อย่างหนักในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีการจำหน่ายผ่านช่องทางเซเว่น-อีเลฟเว่น ที่บริษัทเริ่มเข้าไปวางจำหน่ายช่วงปลายปี 2553 การกระจายสินค้าไปยังร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของบริษัทที่มีอยู่กว่า 300 รายทั่วประเทศ รวมถึงการเป็นผู้จัดจำหน่ายอินเตอร์แบรนด์ เพื่อเพิ่มแบรนด์ของสินค้าให้หลากหลายขึ้น เช่น โซนี่ ที่คาดว่าจะเริ่มจัดจำหน่ายในไตรมาส 2 ของปีนี้”
ส่วนกลยุทธ์ตลาดในปีนี้ บริษัทฯ จะเริ่มจำหน่ายสินค้าในกลุ่ม สมาร์ทโฟน เพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ได้มีการจำหน่ายโทรศัพท์ของ TWZ ที่มีฟังก์ชั่นที่ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนมาจำหน่ายระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
นายพุทธชาติ กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2554 มีอัตราการเติบโตที่ดี คาดว่ายอดขายใกล้เคียงกับของปี 2553
“ในไตรมาสแรกบริษัทคาดการณ์ว่าตัวเลขผลประกอบการจะออกมาใกล้เคียงกับปี 2553 โดยบริษัทน่าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการ The WIZ รัชดา ที่ได้ลงทุนไปประมาณ 140 ล้านบาท และจนถึงขณะนี้คาดว่ามียอดโอนประมาณ 8-10 ห้อง จากทั้งหมด 16 ห้อง หรือคิดเป็นยอดขายกว่า 80 ล้านบาท”
นายพุทธชาติ กล่าวว่า ผลประกอบการในปี 2553 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 3,873 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 8.81% ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นนั้น อยู่ที่ 9.28% ในปี 2553 ลดลงจาก 11.39% ของงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์สื่อสารมีมากขึ้น ทำให้บริษัทต้องจัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อช่วยใน การจัดจำหน่าย ทำให้กำไรสุทธิในปี 2553 มีจำนวน 101.39 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2552 ประมาณ 41.22 ล้านบาท
นายพุทธชาติ กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีมติการจ่ายเงินปันผลจำนวน 0.0175 บาทต่อหุ้น(คิดเป็น Dividend Yield ประมาณ 4% จากราคาหุ้น ณ วันที่ 2 มี.ค.)
ทั้งนี้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิเงินปันผลในวันที่ 24 มีนาคม 2554 และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อ ผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2554 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) คือวันที่ 22 มีนาคม 2554 กำหนดจ่ายเงินปันผล 20 พฤษภาคม 2554