ปัจจุบัน ปริมาณการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าใน AFET มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น อีกทั้งในวันที่ 29 เมษายน 2554 นี้ AFET จะเปิดให้มีการซื้อขายสินค้าข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ส่งมอบแบบ FOB และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มสินค้าอีกอย่างน้อย 1 ชนิด ภายในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจากการเพิ่มสินค้าดังกล่าว จะมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาซื้อขายใน AFET เพิ่มมากขึ้น จากความสนใจดังกล่าวส่งผลให้ บริษัทสมาชิก SET และบริษัทสมาชิกของ TFEX หลายแห่งได้ส่งพนักงานเข้าอบรม และเรียนรู้วิธีการซื้อขายล่วงหน้าใน AFET อย่างต่อเนื่อง และบางบริษัท ได้แสดงความสนใจชัดเจนในการเข้ามาประกอบธุรกิจซื้อขายล่วงหน้าใน AFET เนื่องจากมีรูปแบบการดำเนินการที่คล้ายคลึงกัน จึงเล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มจากฐานลูกค้าเดิม และมีค่าใช้จ่ายในส่วนของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่สูงมาก
“ก.ส.ล. ในฐานะผู้กำกับ ดูแล ส่งเสริม และพัฒนา AFET เล็งเห็นถึงโอกาส และความสำคัญในการเพิ่มปริมาณผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า จึงได้มีการหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ถึงแนวทางในการอนุญาต และการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานของธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น และลดขั้นตอนความซ้ำซ้อนในการดำเนินการที่ไม่จำเป็น โดยปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้อนุญาตให้บริษัทสมาชิกของ TFEX สามารถขออนุญาตเป็นนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า ตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายล่วงหน้า ที่ปรึกษาการซื้อขายล่วงหน้า และผู้ค้าล่วงหน้ากับ ก.ส.ล. ได้ โดยต้องขอความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ก่อน อีกทั้งในปีนี้ ก.ส.ล. ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการขออนุญาต และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีทุกประเภท จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้ามาขอใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายล่วงหน้าใน AFET” นายวันชัย กล่าวทิ้งท้าย