นายวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบัน ตระหนักและให้ความสำคัญในการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย เพื่อแก้ไขความเหลื่อมล้ำระหว่างหญิงชายในประเทศไทย โดยมีนโยบายส่งเสริมความมั่นคงในชีวิตและร่างกาย ตลอดจนคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี สนับสนุนให้มีการปรับเปลี่ยนเจตคติของสังคมที่มีต่อสตรี ที่จะส่งผลให้เกิดความเสมอภาค โดยมีคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาสถานภาพสตรีแห่งชาติ (กยส.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กำกับดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคและบทบาทระหว่างหญิงชาย โดยเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๓ นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารด้านการส่งเสริมบทบาทหญิงชาย (CGEO) โดยมีประเด็น ๔ ข้อ ดังนี้ ๑.) ให้นำเรื่องมิติหญิงชาย เป็นหลักในการบริหารจัดการภายในองค์กร ๒.) ภารกิจและนโยบายของหน่วยงานที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้วิเคราะห์ถึงผลกระทบต่อประชาชนที่แตกต่างกันมีทั้งหลากหลายเพศและสถานะทางสังคม(เช่น เลดี้บัส เลดี้โบกี้รถไฟ) ๓.) นำมิติหญิงชายมาใช้ในการจัดทำแผนงาน งบประมาณ ๔.) กำหนดนโยบายที่ชัดเจนในหน่วยงาน สร้างผู้เชี่ยวชาญด้านมิติหญิงชายในหน่วยงานและสร้างความเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
นายวุฒิกร กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมสมัชชาสตรีแห่งชาตินี้ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ ถือเป็นกลไกหนึ่งในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดำเนินงานของภาครัฐ และรับทราบถึงปัญหา ความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านสตรี ตลอดจนรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและแนวทางในการดำเนินงานด้านสตรี จากตัวแทนกลุ่มหรือองค์กรสตรีทุกระดับ โดยข้อเสนอจากสมัชชาสตรีจะได้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี และนำเข้าการประชุมของกยส.ก่อนจะนำไปกำหนดเป็นนโยบายหรือยุทธศาสตร์ระดับชาติ ในการส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชายในประเทศไทยต่อไป เช่น ประเด็นเร่งด่วน เรื่อง การแก้ไขปัญหาวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อม ซึ่งเป็นข้อเสนอของสมัชชาสตรีแห่งชาติประจำปี ๒๕๕๒ ก็ได้นำมากำหนดเป็นยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการประชุมสมัชชาสตรี ในปี ๒๕๕๔ นี้ จะ ได้หยิบยกประเด็นจากวาระการปฏิรูปประเทศไทย“ขจัดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคม”ตามนโยบายของรัฐบาล มาเชื่อมโยงกับการจัดทำแผนพัฒนาสตรีในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๑ ( พ.ศ ๒๕๕๕- ๒๕๕๙ ) ด้วย.