ทัวร์ไทยพร้อมใจคืนเงินนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่น

พฤหัส ๑๗ มีนาคม ๒๐๑๑ ๑๐:๔๕
นางธนิฏฐา เศวตศิลา มณีโชติ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รป.กก.) เป็นประธานการประชุมการประเมินผลกระทบด้านการท่องเที่ยวต่อสถานการณ์ภัยภิบัติของประเทศญี่ปุ่น เพื่อประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยว หาแนวทางในการรับมือและการแก้ไขกับปัญหาเหตุแผ่นดินไหว สึนามิ และการระเบิดของเตาปฏิกรนิวเคลียร์ ที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ในวันพุธที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เวลา ๐๙.๐๐-๑๐.๓๐ น. ณ ห้องประชุม ๒ ชั้น ๓ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นางธนิฏฐา (รป.กก.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดในประเทศญี่ปุ่น นับจาก การเกิดแผ่นดินไหว การเกิดสินามิ และเกิดการระเบิดของโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้านิวเคลียร์ ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับอันตรายจากสารพิษดังกล่าว และปัญหานี้ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ได้มีนักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเข้ามาร้องเรียนกับทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นจำนวนมากมาย ทั้งนี้ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้นมา โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาให้ข้อมูลและพิจารณาหาแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งจากการประชุมจะพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาเที่ยวยังประเทศไทยในลักษณะกรุ๊ปทัวร์ ยังคงเป็นปกติ ในระยะนี้ แต่ในทางกลับกัน นักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ได้มีการขอยกเลิกการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเกือบจะ 100 % คาดว่าจะมีความต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2554 โดยจากเหตุการณ์ 6 วันที่ผ่านมา เกิดปัญหาการขอคืนเงินของนักท่องเที่ยวชาวไทยกับบริษัททัวร์ที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากที่ร้องเรียนผ่านหน่วยงานต่างๆ รวมถึงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งนี้บริษัททัวร์ เกือบทั้งหมดได้ให้ความร่วมมือทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและนักท่องเที่ยว ในการคืนเงินให้กับนักท่องเที่ยว เกือบ 100 % อาจจะมีบางบริษัททัวร์หักค่าใช้จ่ายประมาณ 5-10% ไว้เป็นค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไปจริง ในการมัดจำหรือค่าวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น จากนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นการออมชอมร่วมกัน และได้รับความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางสายการบินไทย สายการบินแห่งชาติ ได้เป็นผู้นำและได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการคืนหรือเลื่อนตั๋วเดินทางในโซนญี่ปุ่นให้แก่นักท่องเที่ยว จนถึง 30 เมษายน 2554 โดยไม่มีเงื่อนไขใด อีกทั้งเปิดโอกาสให้ญาติพี่น้องทางเมืองไทยซื้อตั๋วเครื่องบินให้แก่ผู้ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมเดินทางขึ้นเครื่องกลับประเทศไทยได้ทันที ในส่วนของสายการบินอื่นๆ และตลาดโรงแรม คาดว่าจะมีแนวทางดำเนินการเช่นเดียวกับสายการบินแห่งชาติต่อไป

ทั้งนี้ทั้งนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงไม่มีเจตนา และนโยบายที่จะบังคับใช้กฎหมายตามพรบ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ตามมาตรา 12 (3) โดยขาดมนุษยธรรม หรือจริยธรรม ในการบังคับใช้ ในช่วงเวลานี้ ซึ่งหากนักท่องเที่ยวต้องการยกเลิกการเดินทางก่อน 30 วัน บริษัททัวร์จะต้องคืนค่าใช้จ่ายให้ 100% แต่ในกรณีนี้ นับเป็นมิติที่ดี ที่เป็นการสร้างความร่วมมือร่วมกันระหว่างบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ต่อกรณีที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดผลดีในภาพรวมของการท่องเที่ยวของประเทศไทย และญี่ปุ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวได้รับความคุ้มครองที่เท่าเทียมกันผ่านกฎของสังคม ไม่ใช่กฏหมาย และเป็นการเจรจาด้วยเหตุและผล ที่สามารถพิสูจน์ได้

นางธนิฏฐา (รป.กก.) กล่าวปิดท้ายว่า ตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงปีที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย จำนวนประมาณ 1 ล้านคนต่อปี มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาของปี 2554 มีอัตราเติบโตกว่า 7 % เฉลี่ยเดือนละ 200,000 - 250,000 คน แต่ในอนาคตต่อไปคาดว่าตัวเลขน่าจะลดลงกว่า 30% อย่างต่อเนื่องอันเนื่องจากเหตุการณ์อันเศร้าสลดของประเทศญี่ปุ่น อันจะส่งผลกระทบต่อเนื่องในระยะยาว ในแง่การตลาดประเทศไทย จำเป็นจะต้องหาตลาดสำรองในโซนเอเชีย ไม่ว่าเกาหลี จีน และอินเดีย ทดแทนตลาดญี่ปุ่น แต่ยังคงความสัมพันธ์ที่ดีและความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าตลาดการท่องเที่ยวลักษณะลองสเตย์ ( Long Stay) จากประเทศญี่ปุ่น จะสร้างกระแสบวกขึ้นทดแทนในระยะยาว เนื่องจากประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่าทางการเงิน(Value of Money) มีอากาศที่อบอุ่น และมีสีสัน ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวชาวไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือร้องเรียนเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น สามารถร้องเรียนมาได้ที่ สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยว โทร.02 2140133 หรือ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว โทร.1155 หรือ ศูนย์อำนวยการและบริการนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โทร. 02 3560650 ต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version