ธนาคารกสิกรไทย คว้าตำแหน่งธนาคารยอดเยี่ยมด้านธุรกิจลูกค้าบุคคลของประเทศไทย ประจำปี 2553 (Best Retail Bank in Thailand 2010) และรางวัลการสร้างแบรนด์ธนาคารยอดเยี่ยมด้านลูกค้า ประจำปี 2553 (Best Retail Banking Brand 2010) ตัดสินโดยวารสารดิ เอเชี่ยน แบงเกอร์ ประเมินผลจากตัวเลขธุรกิจที่เติบโตอย่างโดดเด่น และยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ
นายอำพล โพธิ์โลหะกุล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า วารสารดิ เอเชี่ยน แบงเกอร์ ได้ประกาศผลการประกวดในโครงการ การให้บริการทางการเงินเพื่อลูกค้ารายย่อยยอดเยี่ยม ประจำปี 2553 (The International Excellence in Retail Financial Services Awards 2010) ซึ่งสำหรับประเทศไทย ตัดสินให้ธนาคาร กสิกรไทยเพียงแห่งเดียวได้รับ 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลธนาคารยอดเยี่ยมด้านธุรกิจลูกค้าบุคคลของประเทศไทย ประจำปี 2553 (Best Retail Bank in Thailand 2010) เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และรางวัลการสร้างแบรนด์ธนาคารยอดเยี่ยมด้านลูกค้า ประจำปี 2553 (Best Retail Banking Brand 2010)
ในปี 2553 ธนาคารครองอันดับ 1 ในด้านเงินฝากและกองทุนรวมด้วยจำนวนรวม 1.58 ล้านล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 18% มียอดปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิต และสินเชื่อผู้บริโภค รวมกว่า 213,000 ล้านบาท เติบโตสูงจากปี 2552 ถึง 30% และมีเอ็นพีแอลเพียง 1.4% ซึ่งต่ำกว่าระบบ นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้จากค่าธรรมเนียมประมาณ 15,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 30% จากการเติบโตในส่วนของ ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ เงินโอน บัตรเครดิต และกองทุนรวม อีกทั้งในปี 2553 ธนาคารกสิกรไทย ได้ขึ้นเป็นผู้นำในบริการด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด จากบริการธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ K-Mobile Banking และธนาคารทางอินเทอร์เน็ต K-Cyber Banking โดยมีการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการทั้งสองประเภทมากกว่า 65% อีกด้วย
ทั้งนี้ ธนาคารฯ มีผลการดำเนินงานด้านธุรกิจลูกค้าบุคคลที่มีความแข็งแกร่งต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการ กลยุทธ์ของธนาคารที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญใน 2 ด้าน คือ 1.ด้านการให้บริการที่ดีที่สาขาและ Call Center ซึ่งจากผลสำรวจของบริษัทนีลเส็น ในปี 2553 ธนาคารกสิกรไทยได้คะแนนความพึงพอใจในการใช้บริการที่สาขาสูงเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย จากทุกประเภทธุรกิจ (Best in Class of Thailand :All industries) โดยได้คะแนนสูงถึง 88 คะแนน ขณะที่คะแนนความพึงพอใจในการบริการที่ Call Center ก็สูงอยู่ในระดับ 85 และ 2.ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ใหม่ ๆ ที่โดนใจลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เช่น K-My ATM เป็นนวัตกรรมเครื่องเอทีเอ็มรูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ที่ผู้ถือบัตรเดบิต/เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย เลือกรูปแบบพื้นหลังหน้าจอเอทีเอ็ม พร้อมบันทึกประเภทธุรกรรมที่ใช้บ่อย หรือเงินฝากคุ้มครองวัยซน ที่เป็นเป็นการขายพ่วงระหว่างผลิตภัณฑ์เงินฝากทวีทรัพย์พร้อมประกันภัยวัยซน ที่คุ้มครองอุบัติเหตุและค่าชดเชยรายวันจากการรักษาพยาบาล 6 โรคสำคัญในเด็ก เป็นต้น
สำหรับรางวัลการสร้างแบรนด์ธนาคารยอดเยี่ยมด้านลูกค้าประจำปี 2553 ธนาคารกสิกรไทยมีการสร้าง แบรนด์ของธนาคารกับกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยการทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าแบบ 360 องศา ซึ่งสะท้อนได้เห็นจากแคมเปญ “ฝาก KBank ช่วยดูแลตลอดทุกช่วงชีวิต เพื่ออนาคตที่ดีกว่า” โดยแนวคิดดังกล่าวมีที่มาจากผลการศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าที่ลูกค้าในแต่ช่วงอายุมีความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่างกัน โดยมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงชีวิต
นายอำพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการทำการตลาดผ่านสื่อดิจิตอล ธนาคารได้ดำเนินการผ่านช่องทาง Social Media อย่างต่อเนื่อง ในชื่อ KBank Live ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยเป็นธนาคารที่มีแฟนเพจ (fan page) และผู้ติดตาม (follower) บน Facebook และ Twitter เป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย และนับเป็นอันดับ 2 และอันดับ 4 ของโลก ตามลำดับ ในด้านจำนวนสมาชิกที่มากที่สุดในหมวดธนาคารและสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายธุรกิจลูกค้าบุคคล ในปี 2554 จะเพิ่มจำนวนลูกค้าเป็น 9.6 ล้านราย ยอดสินเชื่อธุรกิจลูกค้าบุคคลเพิ่มขึ้นประมาณ 27,000 ล้านบาท หรือ 12-15% ยอดเงินฝากและกองทุนเติบโตต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโต 13-15% ต่อปี สำหรับรายได้จากค่าธรรมเนียมในปี 2554 ธนาคารตั้งเป้าไว้ที่ 19,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30-35% จากปี 2553