MFEC มั่นใจหลังควบรวมกิจการ 3 บริษัทไอที หนุนรายได้ปีแรกโต 20% กำไรโตเกือบ 3 เท่า

ศุกร์ ๑๘ มีนาคม ๒๐๑๑ ๑๔:๑๗
MFEC มั่นใจ หลังควบรวมกิจการ 3 บริษัทไอที 'ซอฟต์ สแควร์ กรุ๊ป-บิสซิเนส แอพพลิเคชั่น-โมทีฟ เทคโนโลยี ' หนุนรายได้ปีแรกขยายตัว20% หรือแตะ 3.5 พันลบ. ขณะที่กำไรมีโอกาสโตเกือบ 3 เท่าตัว เหตุการควบรวมกิจการทำให้องค์กรมีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มอำนาจการต่อรองและศักยภาพในการขยายธุรกิจ ในขณะเดียวกันสามารถลดต้นทุนบางส่วนให้ต่ำลงเพิ่มความคล่องตัวในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี พร้อมส่งสัญญาณโค้งแรกปี 54 ธุรกิจยังเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อน มี Backlog รอรับรู้เป็นรายได้แล้วกว่า 2 พันลบ.

นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) (MFEC) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้บริษัทฯ ควบรวมกิจการกับ 3 บริษัทผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ซอฟต์สแควร์กรุ๊ป โดยผ่านการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท นอร์ธเทอร์นสตาร์ซอฟต์แวร์ จำกัด บริษัท บิซิเนส แอพพริเคชั่น จำกัด และบริษัท โมทีฟ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) โดยผ่านการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท เมกัส จำกัด เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับองค์กร ตลอดจนรองรับโอกาสทางธุรกิจที่จะเข้ามาในอนาคตนั้น เชื่อว่าภายหลังการควบรวมกิจการดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้รายได้ในปีแรกขยายตัวได้ 20% หรืออยู่ที่ 3,500 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิมีโอกาสเติบโตได้ถึง 3 เท่าตัว จากปี 2553 ที่บริษัทฯ ทำได้ 60-70 ล้านบาท เนื่องจากการควบรวมกิจการครั้งนี้ เป็นการนำจุดแข็งของแต่ละบริษัทเข้ามาสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งนอกจากจะทำให้บริษัทฯ มีขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ยังสามารถเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจ และทำให้ต้นทุนบางส่วนลดลง เพิ่มความคล่องตัวในการแข่งขันได้อีกทางหนึ่งด้วย

“การควบรวมกิจการกับ 3 บริษัทพันธมิตรในครั้งนี้ เป็นการนำบริษัทฯ ที่โดดเด่นและเป็นผู้นำทางด้าน Software และ IT Services ชั้นนำของประเทศในแต่ละตลาดมารวมไว้ด้วยกัน ดังนั้น สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนหลังจากนี้ นอกเหนือจากการเติบโตแบบก้าวกระโดดแล้ว ยังจะทำให้ MFEC GROUP เป็นองค์กรที่เข้มแข็งเป็นผู้นำที่โดดเด่นในอุตสาหกรรม Software และ IT Services ของประเทศอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันยังเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไอทีไทยให้แข่งขันได้ กับผู้ประกอบการอื่นๆ ในตลาดโลกได้เป็นอย่างดี และจะส่งเสริมแผนการก้าวสู่ตลาดในระดับภูมิภาคและตลาดโลกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นที่ยอมรับนับถือจากสาธารณะ และนักลงทุน โดยโครงการควบรวมกิจการดังกล่าวจะนำเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในเดือนเมษายนนี้”

เขากล่าวอีกว่า หลังการควบรวมกิจการในครั้งนี้ MFEC GROUP ได้วางเป้าหมายจะปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างและการบริหารองค์กรให้กลายเป็น “สถาบัน” ที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน เป็นผู้นำในการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศไทย การสร้างงานที่มีมูลค่าเพิ่มสูงในระดับท้องถิ่น และการกระจายรายได้ในประเทศเพื่อเป็นส่วนร่วมในการที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจ บริการเชิงสร้างสรรค์ หรือ Creative Service Economy ได้ และประการสำคัญจะช่วยส่งเสริมให้ตลาดซอฟต์แวร์เมืองไทยแข็งแกร่งขึ้น โดยการดำเนินธุรกิจของทั้ง 3 บริษัทยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่มีการปลดพนักงานแต่จะช่วยกันทำงานให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจไอทีและให้แข่งขันกับผู้ประกอบการในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างคล่องตัว

นายศิริวัฒน์ กล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 1/2554 ว่า ถือว่ามีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1,800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปีถัดไป ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้บริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลงานใหม่ทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานรัฐวิสาหกิจ 800-900 ล้านบาท และงานเอกชนอีก 300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานดังกล่าวในสัดส่วน 700-800 ล้านบาท จากมูลค่างานรวมทั้งหมด โดยปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าหลักของบริษัทฯ จะมาจากกลุ่ม Telecom 35% banking 20% ภาครัฐ 25% และที่เหลือมาจากกลุ่มอื่นๆ

ทั้งนี้ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำปี 2553 ( 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2553) มีรายได้ 2,595 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 67.87 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.26 บาท และในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2554 ซึ่งประชุมเมื่อวันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 ระหว่างเวลา 13.00 น. ถึง 16.15 น.ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการจัดสรรเงินสดปันผลโดยจ่ายจากผลกำไรสะสมของบริษัทจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยจ่ายเงินสดปันผลในอัตรา 0.45 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 พร้อมกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อเสนอมติดังกล่าวให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาในวันที่ 25 เมษายน 2554

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี(ฟ้า)

Tel. 02-554-9395 // E-mail : [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO