นายบัณฑิต โชติวรรณพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCC เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2554 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของยอดขายและกำไรสุทธิเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ยอดขายอยู่ที่ 92.47 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิ 4.61 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมียอดขายถ่านหินทั้งไตรมาส 1/2554 เข้ามาไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตกว่า 170% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ภายหลังจากวิกฤติสึนามิในประเทศญี่ปุ่นเชื่อว่าถ่านหินจะกลายเป็นพลังงานทางเลือกที่สำคัญสำหรับทุกภาคส่วน รวมถึงปริมาณความต้องการใช้ (ดีมานด์) ถ่านหินที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น บริษัทจึงมั่นใจว่ารายได้ทั้งปี 2554 จะเติบโตตามเป้า 1,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน
“ราคาขายถ่านหินในตลาดโลกยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงล่าสุด ระดับราคาถ่านหิน BJI อยู่ที่ระดับ 128 เหรียญสหรัฐต่อตัน และคาดว่าราคาถ่านหินในตลาดโลกจะมีแนวโน้มที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหรืออาจปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 140-150 เหรียญสหรัฐต่อตันภายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาขายถ่านหินภายในประเทศด้วย”นายบัณฑิต กล่าว
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า สำหรับแผนความร่วมมือกับพันธมิตร และการส่งออกถ่านหินไปยังประเทศจีนนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจา โดยเชื่อว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 3/2554 อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้บริษัทยังมียอดสั่งซื้อ (ออเดอร์) ทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของปริมาณการจำหน่ายและราคาขาย ทั้งนี้ฐานลูกค้ากลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ, กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารคน และอาหารสัตว์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 เมื่อวันที่14 มี.ค.2554 ได้มีมติอนุมัติเป็นเอกฉันท์ให้บริษัทออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 75.98 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering = “RO”) ในอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน และอนุมัติออกใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 2 (TCC-W2) จำนวนไม่เกิน 75.98 ล้านหุ้น โดยจะจัดสรร TCC-W2 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยไม่คิดมูลค่า ในอัตรา 1 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ
รวมทั้ง ยังอนุมัติให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 200 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) และให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 44.07 ล้านหุ้น เพื่อรองรับทุนจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับสิทธิ TCC-W1
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า ทั้งนี้บริษัทได้กำหนดการปิดสมุดทะเบียนผู้ได้รับสิทธิในการเพิ่มทุน RO ดังกล่าวในวันที่ 31 มีนาคม 2554 และคาดว่าจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิและจำนวนสิทธิของผู้ถือหุ้นที่จะได้สิทธิในการเพิ่มทุน RO ดังกล่าวในวันที่ 3 เมษายน 2554 และกำหนดการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 22 — 29 เมษายน 2554