นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ ( 22 มีนาคม 2554) ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ 8 สถาบันการเงินชั้นนำ คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารธนชาต พร้อมด้วยบริษัทหลักทรัพย์ในเครือ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดตัวโครงการ
“Banker to Broker” โดยจะมีการจัดอบรมอย่างเข้มข้นแก่ผู้จัดการสาขา และเจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดกับการให้บริการลูกค้า เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้พนักงานธนาคารทั้ง 4 แห่ง ซึ่งมีจำนวนกว่า 2,400 สาขาทั่วประเทศ ในการทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าของธนาคารอย่างมีคุณภาพ พร้อมทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังบริการด้านหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ในเครือของธนาคาร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้สนใจให้ได้รับบริการได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ จะมอบรางวัลแก่สาขาที่เพิ่มจำนวนบัญชีลูกค้าได้สูงสุดในช่วง 8 เดือนระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน โดยมั่นใจว่าโครงการนี้จะสามารถช่วยขยายฐานผู้ลงทุนได้กว่า 8,000 บัญชี
“ธนาคารพาณิชย์เป็นช่องทางที่ช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงและเข้าใจการลงทุนได้ง่ายขึ้น จากผลสำรวจโครงการสำรวจกลุ่มผู้มีศักยภาพเป็นผู้ลงทุนใหม่ (Potential Investor) ในปี 2552 พบว่าผู้ลงทุนสนใจการซื้อขายหุ้นผ่านธนาคาร ถึง 69% ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการด้านการลงทุน อาทิ โครงการ Broker Branch @ Bank สนับสนุนการเปิดสาขาบริษัทหลักทรัพย์ในธนาคาร โครงการ Wealth Management @ Bank จัดอบรมความรู้ด้านการบริหารการเงินและการลงทุนแก่ผู้จัดการสาขา เป็นต้น โครงการ “Banker to Broker” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ช่วยส่งเสริมการบริการด้านการลงทุน และมั่นใจว่าธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน ในขณะที่ผู้มีเงินออมก็จะได้รับบริการและคำแนะนำด้านการลงทุนอย่างมีคุณภาพและครบวงจร เพราะนอกจากหุ้นแล้ว บริษัทหลักทรัพย์เองยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการลงทุนในพันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนรวม ตลอดจนกองทุนรวมอีทีเอฟ อีกด้วย” นายจรัมพรกล่าว
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารได้จัดอบรมเพื่อส่งเสริมให้พนักงานก้าวสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวางแผนการเงินอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการอบรม Wealth Management การอบรมและทดสอบหลักสูตรผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนประเภท ข. (Single License) ซึ่งมีผู้ได้รับใบอนุญาตอยู่ถึง 2,848 คน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาและสนับสนุนบริการด้านแนะนำการลงทุนให้ครบทุกด้าน อาทิ บริการแนะนำเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ กับ บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง (Introducing Agent: IA) ผ่านธนาคารกรุงเทพ และบริการเป็นตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนกองทุนรวม รวมถึงธนาคารสนับสนุนให้มีช่องทางการให้บริการด้านการลงทุนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้นนอกจากผ่านช่องทางสาขา ได้แก่ การพัฒนาช่องทางการให้บริการผ่านช่องทางอิเล็คทรอนิกส์ ต่าง ๆ ได้แก่ Bualuang iBanking , Bualuang Phone และ Bualuang ATM”
นางนงนุช เทียนไพฑูรย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารมุ่งเน้นการรวมศักยภาพในกลุ่มธุรกิจการเงินภายใต้ KTB Group มาโดยตลอด โดยมีจุดแข็งอยู่ที่ฐานลูกค้าและเครือข่ายสาขาที่มีสัมพันธภาพกับลูกค้าอย่างเหนียวแน่น ส่วนของ บล. เคที ซีมิโก้ เองก็มีผู้ดูแลประสานงานกับสาขาของธนาคารครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการสร้าง Wealth Manager ในระดับสาขาทั้ง โครงการ Wealth Management @ Bank ของ TSI การอบรมหลักสูตรนักวางแผนการเงิน หรือ Certified Financial Planner (CFP) ซึ่งดำเนินการครบทุกสาขาทั่วประเทศแล้ว ธนาคารจึงเชื่อว่าสามารถต่อยอดความมั่งคั่งให้กับลูกค้าได้สมกับการเป็นธนาคารแสนสะดวก หรือ Convenience Bank ได้เป็นอย่างดี”
นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เครือธนาคารกสิกรไทยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันมาโดยตลอด เพื่อเพิ่มช่องทางการให้บริการทางด้านการลงทุนอย่างครบวงจรและเบ็ดเสร็จในจุดเดียว โดยให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงิน จึงเปิดให้บริการ K We Plan เพื่อให้คำแนะนำเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างครบวงจรและเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ที่ตระหนักถึงความจำเป็นของการวางแผนการเงินที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับหลักทรัพย์กสิกรไทยขยายสาขาหลักทรัพย์ไปกับสาขาธนาคารกสิกรไทย ทั้งในรูปแบบ Full Branch หรือที่หลักทรัพย์กสิกรไทยเรียกว่า Business Service Center และในรูปแบบ Mini Branch หรือที่หลักทรัพย์กสิกรไทยเรียกว่า K Investment Corner คาดว่าจะครบ 48 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าการลงทุนเป็นเรื่องเข้าถึงง่าย สะดวก และใกล้ตัว ที่สำคัญได้รับความสุขจากการลงทุน”
นายนพดล เรืองจินดา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารธนชาตและหลักทรัพย์ธนชาตได้ให้ความสำคัญกับการให้ความรู้บุคลากรอย่างต่อเนื่องทั้งแบบ Classroom Training และ Self Learning และนอกจากพนักงานธนาคารแล้ว เรายังมีกิจกรรมที่เรียกว่า Investor’s Day Lunch Talk ซึ่งเป็นโครงการเผยแพร่ความรู้ด้านการลงทุนเชิงลึกโดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ให้กับกลุ่มลูกค้า นอกจากนี้ยังร่วมมือกันในแบบ Cross-selling ซึ่งได้มีมากว่า 5 ปีแล้ว และมีผลเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันเรามีบัญชีแนะนำจากธนาคารธนชาตมายังหลักทรัพย์ธนชาตกว่า 1,000 บัญชีต่อปี มีปริมาณการซื้อขายจากลูกค้ากลุ่มนี้มากกว่าปีละ 20,000 ล้านบาท”
โครงการ Banker to Broker เป็นโครงการส่งเสริมช่องทางการลงทุนผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ ที่มุ่งให้ความรู้ผ่านการอบรมเข้มข้น แก่บุคลากรสาขาของธนาคารพาณิชย์ โดยเน้นการบริหารพอร์ตพร้อมให้ข้อมูลสินค้า และบริการที่เป็นนวตกรรมในตลาดทุน โครงการ Banker to Broker จะมอบรางวัลพิเศษเดินทางไปทัศนศึกษาต่างประเทศ แก่สาขาที่ขยายฐานลูกค้าได้ดี ตลอดโครงการรวม 8 เดือนคือตั้งแต่เมษายน — พฤศจิกายน 2554 พร้อมสนับสนุนชุดหนังสือความรู้ตลาดทุนเพื่อ SET Corner และหลักสูตร Modern Investment อีก 200 รางวัล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม S-E-T Call Center โทร. 0-2229-2222
สื่อมวลชน ติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ 0 2229 2036 /วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร 0 2229 2797 /อรสิริ บุญแต้ม 0 2229 2797