อ.อ.ป. สานต่อนโยบาย ทส. เพิ่มภารกิจ “การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” พร้อมเดินหน้าลงนามความร่วมมือ “สร้างที่อยู่ถาวรให้ช้างไทย”

ศุกร์ ๒๕ มีนาคม ๒๐๑๑ ๑๖:๑๐
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า “ จากปัญหาช้างเลี้ยงที่เข้ามาเร่ร่อนในเมืองเป็นปัญหาที่เรื้อรัง ส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประเทศ และช้างเลี้ยงถูกนำมาใช้งานอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งเรื่องนี้ ทส.ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องหา แนวทางการแก้ไขและสร้างมาตรการในการป้องกันร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน กอปรกับขณะนี้ ทส. ได้กำหนดนโยบายให้ อ.อ.ป.ปรับเพิ่มบทบาทการดำเนินงานทางด้านการอนุรักษ์และบริบาลช้างไทยให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยเน้นการใช้ประโยชน์พื้นที่สวนป่าเศรษฐกิจเพื่อการอนุรักษ์ช้างเลี้ยงให้เกิดความยั่งยืน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้กับประเทศอีกทางหนึ่ง ”

รมว.ทส. กล่าวต่อไปว่า “ โครงการที่อยู่ถาวรของช้างไทย (Elephant Sanctuary) เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง อ.อ.ป.กับมูลนิธิกองทุนรักษ์ช้าง มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ช้างให้เกิดความยั่งยืนและทำให้ช้างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยจัดให้มีสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงดูช้าง เมื่อมีการรับมอบช้างมาดูแล ซึ่งรวมถึงช้างป่วย ช้างพิการ และช้างชรา นอกจากนี้ยังใช้เป็นโครงการต้นแบบของการเลี้ยงและจัดการสวัสดิภาพให้กับช้างและควาญอย่างมีมาตรฐาน รวมถึงส่งเสริมให้เป็นแหล่งศึกษาวิจัยทางวิชาการเกี่ยวกับช้างและการอนุรักษ์ผืนป่าและสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนท้องถิ่นให้อยู่ร่วมกันกับช้างอย่างยั่งยืน และสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีทางด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศอีกด้วย

สำหรับพื้นที่ในการใช้ดำเนินการโครงการที่อยู่ถาวรของช้างไทย (Elephant Sanctuary) เบื้องต้น อ.อ.ป.ได้จัดสรรพื้นที่สวนป่าเศรษฐกิจ “สวนป่าคลองตะเกรา จังหวัดฉะเชิงเทรา” เป็นพื้นที่ดำเนินการโครงการฯ เนื่องจากเป็นสวนป่าที่มีความพร้อมในโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถจะพัฒนาไปสู่สวนป่าเศรษฐกิจเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้ ตลอดจนให้การสนับสนุนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับช้างเพื่อร่วมทำโครงการฯ ให้บรรลุวัตถุประสงค์การจัดทำโครงการฯ นี้ ”

นายอำนาจ ขัมภลิขิต รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ อ.อ.ป. กล่าวว่า “ ปัจจุบัน อ.อ.ป.เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลช้างเลี้ยงอย่างเป็นระบบ หากได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิกองทุนรักษ์ช้างในการสร้างโครงการที่อยู่ถาวรของช้างไทยเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งในพื้นที่ภาคตะวันออก ก็จะทำให้ช้างไทยได้รับการดูแลดีขึ้น เนื่องจากในพื้นที่ทางภาคตะวันออกยังไม่มีหน่วยงานที่เป็นศูนย์กลาง

ในการดูแลช้าง สำหรับเรื่องการก่อสร้างโครงการที่อยู่ถาวรของช้างไทยที่สวนป่าคลองตะเกรา จังหวัด ฉะเชิงเทรา ขณะนี้ อ.อ.ป. ได้ดำเนินการขออนุญาตเพื่อใช้ประโยชน์เพิ่มเติมในพื้นที่สวนป่า จำนวน 600 ไร่ ตามนโยบายของ ทส.เรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะดำเนินการต่อไปตามข้อตกลงที่จะได้จัดทำร่วมกัน ต่อไป ”

ด้านนางพิไลพรรณ สมบัติศิริ ประธานมูลนิธิกองทุนรักษ์ช้าง กล่าวว่า “ มูลนิธิกองทุนรักษ์ช้าง เล็งเห็นว่า ในสังคมไทยให้ความสำคัญกับช้างทั้งในภาพที่เป็นสัตว์สัญลักษณ์ของชาติ และเป็นสัตว์ใหญ่ที่ต้องได้รับการดูแลเพื่อป้องกันมิให้สูญพันธุ์ ดังนั้นเรื่องการจัดหาสถานที่ที่มีความเหมาะให้กับช้างอยู่ มีอาหารให้กับช้างได้กินอย่างเพียงพอ มีสภาพแวดล้อมที่ช้างสามารถใช้ชีวิตตามธรรมชาติให้มากที่สุด และการทำให้ช้างอยู่ร่วมกับคนได้เหมือนดังกับเช่นในอดีต น่าจะเป็นวิธีการอนุรักษ์ช้างเลี้ยงอย่างยั่งยืนให้กับประเทศได้อีกทางหนึ่ง ”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ