บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดจอง 4 กองตราสารหนี้ระยะสั้น จ่ายสูงสุด 2.75%

จันทร์ ๒๘ มีนาคม ๒๐๑๑ ๑๗:๒๐
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยถึงนโยบายการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ในช่วงนี้ว่า ด้วยแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในภาวะขาขึ้น บริษัทฯจึงยังคงออกกองทุนระยะสั้นอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยใช้กลยุทธ์จัดสินทรัพย์การลงทุนผสมระหว่างพันธบัตรรัฐบาล สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศในสัดส่วนที่เหมะสม ที่มีความมั่นคงสูงและมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงหรือเท่ากับ Investment Grade อย่างไรก็ตามการคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในประเทศคงจะปรับขึ้นไปอย่างช้าๆ ในขณะที่ทาง บลจ.ไทยพาณิชย์ยังคงสามารถเสนออัตราผลตอบแทนสุทธิที่สูงกว่า จากความหลากหลายและครบถ้วนกับระยะเวลาของการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งจะมีกองทุนใหม่ออกมาอีก 4 กองทุน มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท มีระยะเวลาลงทุน 3 - 6 เดือน ส่วนนโยบายการลงทุนจะมีให้เลือกทั้งที่เป็นเงินฝากธนาคารต่างประเทศผสมกับตราสารหนี้ระยะสั้นไทยเพื่อเพิ่มผลตอบแทน กับกองทุนที่ลงในตราสารระยะสั้นภายในประเทศอย่างเดียว ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน

นางโชติกา กล่าวว่า กองทุนที่เปิดจำหน่ายประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 4M1 (SCBFI4M1 ) อายุ 4 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.75% ต่อปี มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอิสราเอล โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์เรทติ้งส์ อยู่ที่ F1 มีสัดส่วนการลงทุน 55% เงินฝากธนาคาร Union National Bank ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ อันดับความน่าเชื่อถืออยู่ ที่ F1 สัดส่วน 24% และตั๋วแลกเงินธนาคารนครหลวงไทย สัดส่วน 21% อันดับความน่าเชื่อถืออยู่ ที่ F1+ พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว โดยเสนอขายตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2554

ส่วนอีก 3 กองทุน จะเสนอขายพร้อมกันระหว่างวันที่ 29 มีนาคม-4 เมษายน 2554 คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 6M13(SCBFI6M13 ) อายุ 6 เดือน คาดผลตอบแทน 2.75% ต่อปี เน้นลงทุนในเงินฝากธนาคาร HSBC Middle East สัดส่วน 20% เงินฝากธนาคาร Union Nation Bank ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 25% โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์เรทติ้งส์ อยู่ที่ F1+/F1 ส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย 55% ซึ่งได้ปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้วและอีก 2 กองทุนเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นในประเทศ อายุ 3 เดือน คือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ในประเทศ 3M1 (SCBLFI3M1) คาดผลตอบแทน 2.25% ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 30% เงินฝากธนาคารออมสิน 25% หุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) 25% และตั๋วแลกเงินธนาคารนครหลวงไทย 20% มีอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์เรทติ้งส์อยู่ที่ F1+ และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 3M45 (SCBGB3M45) คาดผลตอบแทน 2.15% ลงทุนในตั๋วเงินคลัง 99% ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์

สำหรบผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่าย และ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ