โครงการกรุงไทย ยุววาณิช ที่ธนาคารกรุงไทยจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 เพื่อจุดประกายและสร้างเยาวชนที่มีคุณธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคมตามแนวคิดทุนทางปัญญาไม่มีวันหมด โดยเน้นให้เยาวชนในระดับมัธยมศึกษาและระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)ได้มีเวทีในการฝึกปฏิบัติการดำเนินธุรกิจ มีความสนใจและตื่นตัวที่จะใช้ความคิด ความรู้ที่มีอยู่ประกอบกับการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม แล้วนำมาปฏิบัติจริงให้เป็นรูปธรรม มีการจัดตั้งบริษัทจำลอง เพื่อผลิตสินค้าและบริการจริง โดยมีสาขาของธนาคารเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งในปีนี้มีทีมที่สนใจส่งโครงงานเข้าประกวดมากถึง 855 ทีม และได้คัดเลือกให้เหลือ 10 ทีม และตัดสินรอบสุดท้าย ผลปรากฎว่านักเรียนจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาคม จ.เชียงใหม่ ในนาม บริษัท เอ็มซีเฮลท์ตี้แคร์ จำกัด ผลิตเครื่องนอนและเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพจากหลอดดูดน้ำ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ รับทุนการศึกษา 390,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทุนการศึกษา 350,000 บาท คือ บริษัทเรือนวังหม้อแกง จำกัด ผลงานจากโรงเรียนทับปุดวิทยา จ.พังงา ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลส้มควายและแตงไทย และรองชนะเลิศอันดับ 2 ทุนการศึกษา 350,000 บาท เป็นผลงานการผลิตสารชีวภาพและอาหารชีวภาพสำหรับกำจัดหอยเชอรี่ ของบริษัท ชาวนาไทย จำกัด จากโรงเรียนบ้านแก่งวิทยา จ.สุโขทัย
สำหรับรางวัลชมเชย 7 รางวัล รางวัลละ 85,000 บาท ได้แก่ บริษัท ปุ๋ยอัดเม็ดมูลช้างเกษตรอินทรีย์วิถีสุรินทร์ จำกัด วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ จ.สุรินทร์ ผลิตปุ๋ยอัดเม็ดจากมูลช้าง บริษัทแม่ยมการเกษตร จำกัด โรงเรียนคีรีมาศพิทยาคม จ.สุโขทัย ผลิตเครื่องขอดเกล็ดปลา บริษัท Fairy Shrimp จำกัด วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ผลิตไรน้ำนางฟ้า บรัษัท ก้าวหน้าภูมิปัญญาไทย จำกัด โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม จ.มหาสารคาม จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากรังไหม บริษัท งามเวียงกาหลง จำกัด จากโรงเรียนแม่เจดีย์วิทยาคม จ.เชียงราย ผลิตงานไม้ทำเลียนแบบงานเซรามิคลายเวียงกาหลง บริษัท b.d. เฟอร์นิเจอร์ จำกัด วิทยาลัยเทคนิคตราด จ.ตราด ผลิตเฟอร์นิเจอร์และภาพเขียนจากผิวกะลามะพร้าวและเปลือกหอย และสุดท้าย บริษัท Nara Mom Group จำกัด จากวิทยาลัยการอาชีพนางรอง จ.บุรีรัมย์ ผลิตเบาะปูนอนสามารถปรับเป็นเป้สำหรับเลี้ยงเด็กแรกเกิด
และในปีนี้มีรางวัลพิเศษ 2 รางวัล คือ รางวัลการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส และซื่อสัตย์สุจริต รางวัลละ 30,000 บาท จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้แก่ โรงเรียนทับปุดวิทยา จ.พังงา ส่วนระดับ ปวช.ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพนางรอง จ.บุรีรัมย์
ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า โครงการกรุงไทยยุววาณิช เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของธนาคาร ภายใต้แนวคิดทุนทางปัญญาไม่มีวันหมด ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 9 แล้ว และถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยทุกโรงเรียนที่เข้าโครงการสามารถนำโอกาสที่ธนาคารให้ไปเป็นทุนทางปัญญาของตนเอง ของครอบครัว และของสังคมได้ ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่าเมื่อเยาวชนเหล่านี้เติบโต จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นนักธุรกิจที่มีคุณธรรม และเป็นรากฐานที่เข้มแข็งของชุมชนและสังคมที่เขาอยู่
ดร.สถิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีครู นักเรียน เข้าร่วมในโครงการประมาณ 110,000 คน ซึ่งภายใต้โครงการกรุงไทย ยุววาณิช เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้มีโอกาสสัมผัสกับวิถีการทำธุรกิจอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเขียนแผน การออกแบบสินค้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การประสานงานติดต่อกับแหล่งวัตถุดิบต่างๆ การตั้งราคาจำหน่าย การบรรจุหีบห่อ การพบปะกับลูกค้าและชุมชนโดยตรง การนำเสนอผลงาน ทำให้เยาวชนได้รู้จักการแก้ไขปัญหาจากกระบวนการทำธุรกิจต่างๆ นอกจากนี้ภายใต้การทำธุรกิจที่เยาวชนได้มีโอกาสสัมผัสกับเงินรายได้ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ทำให้เยาวชนมีความเข้าใจและเห็นคุณค่าความหมายของการทำธุรกิจอย่างเป็นธรรม และโปร่งใส ได้เป็นอย่างดี
“เรายังได้ปลูกฝัง ให้เยาวชนรู้จักดูแลรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นที่น่าดีใจที่เยาวชนในโครงการกรุงไทย ยุววาณิช เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ โดยแต่ละทีมนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการทำธุรกิจอย่างน้อย 15 % ไปพัฒนาชุมชน รวมถึงนำความรู้ไปถ่ายทอดให้กับรุ่นน้อง และชุมชนด้วย”
ด้านนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สิ่งที่ประทับใจและน่าชื่นชม คือนักเรียนสามารถนำความคิดทันสมัยของพวกเขามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าต่อทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ซึ่งสินค้าที่เด็กๆ นักเรียนได้ทำสะท้อนให้เห็นถึงความหวงแหน และเห็นคุณค่าภูมิปัญญาของไทยมากขึ้น โดยรู้จักนำภูมิปัญญาในท้องถิ่นมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและมีราคาได้ นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความห่วงใยในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบชุมชนเขา โดยรู้จักเอาของเหลือใช้มาแปรรูปเป็นสินค้า
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในปีนี้เช่น การคิดค้นเครื่องขอดเกล็ดปลาของโรงเรียนคีรีมาศพิทยาคม จังหวัดสุโขทัย เพื่อช่วยทุ่นแรง และลดเวลาในการขอดเกล็ดปลาของชุมชน โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม จังหวัดมหาสารคาม ได้นำเศษผ้าไหมที่ปกติจะถูกทิ้งและเผาส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มาทำเป็นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากเศษผ้าไหม เช่นแฟ้ม ใบประกาศ กรอบรูป หรือไดอารี่สมุดรีไซเคิล และของตกแต่งบ้าน และนักเรียนจากวิทยาลัยเทคนิคตราด ได้คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการผลิต ดูแลกระบวนการผลิตไม่ให้ก่อมลพิษทางน้ำ ทางอากาศ โดยทำบ่อดักไขมัน การขัดกระดาษทรายให้มีถุงเก็บฝุ่น ทำให้ไม่เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย รวมถึงการพัฒนาหมอนที่นอนจากหลอดกาแฟ ของนักเรียนโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยให้คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ จากฝุ่นของงิ้วหรือนุ่น ได้มีทางเลือก อีกทั้งยังช่วยลดอาการแผลกดทับของผู้ป่วยได้อีกด้วย
สำหรับโครงการกรุงไทย ยุววาณิช ในปีนี้มีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่น่าสนใจ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ประยุกต์สร้างสรรค์ลวดลายเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลง เช่น แจกันไม้ ร่มล้านนา โคมไฟกระดาษสา ถุงผ้าและ เสื้อยืด จากโรงเรียนแม่เจดีย์วิทยาคม จ.เชียงราย และผลิตภัณฑ์ “ถุงท้องคุณแม่ 3IN1”ที่ใช้อุ้มลูกได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงน้ำหนัก 8 กิโลกรัม จ.มหาสารคาม ผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารจากแยมส้มควายและแตงไทย จากโรงเรียนทับปุดวิทยา จ.พังงา นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ไรน้ำนางฟ้าจากการเพาะเลี้ยง สำหรับเป็นอาหารของปลาสวยงาม ผลงานน้องๆ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี ปุ๋ยอัดเม็ดจากมูลช้าง จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ และผลิตภัณฑ์สารชีวภาพและอาหารชีวภาพกำจัดหอยเชอรี่ ของนักเรียนโรงเรียนบ้านแก่งวิทยา จ.สุโขทัย
โครงการกรุงไทย ยุววาณิช เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้านการศึกษา ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งมุ่งเสริมสร้างทุนทางปัญญาให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งสายสามัญและสายอาชีพ เพื่อเรียนรู้การทำธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส ซึ่งผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.youngenterprise.ktb.co.th หรือสอบถามโทร.0-2208-8674-6
?
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท มายแบรนด์ เอเจนซี่ จำกัด